จับคนร้ายชิงทองที่ปัตตานีได้แล้ว วงจรปิดจับภาพถอดแมสก์ได้ชัด พบเส้นทางหนีไปที่หาดใหญ่

20 เมษายน 2565, 11:33น.


           ในที่สุด เจ้าหน้าที่ก็สามารถควบคุมตัวคนร้ายชิงทองที่จ.ปัตตานีได้แล้ว เมื่อเวลา 02.00 น.วันที่ 20เม.ย.65 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป.,พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป.,พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป.,พ.ต.ท.วริศร มัจฉา รอง ผกก.6 บก.ป.,พ.ต.ท.ทศพล กิติลาภ สว.กก.6 บก.ป.,พ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ บุญทอง สว.กก.6 บก.ป.นำกำลังจับกุม นายอนันตชัย อายุ 37 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดปัตตานี ที่ 194/2565 ลงวันที่ 19 เม.ย. 65 ข้อหาชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธปืน มีและพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต จับกุมได้ที่หน้าบ้านหลังหนึ่งใน ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พร้อมตรวจยึดสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท





           นายอนันตชัย ก่อเหตุเมื่อวันที่ 18 เม.ย.65 ใช้ปืนข่มขู่พนักงานห้างทองยั่งฮับเต็ง แอนด์ จิวเวลรี่ ตั้งอยู่ในห้างในพื้นที่ อ.เมือง จ.ปัตตานี ก่อนจะกระชากแผงสร้อยคอทองคำที่แขวนโชว์อยู่ไปทั้งแผงแล้ววิ่งหนีออกไป 9 เส้น ประมาณ 13 บาท  พร้อมใช้ปืนขู่ รปภ.ที่จะเข้ามาช่วย ก่อนวิ่งไปขึ้นรถจักรยานยนต์ขับหลบหนีไป



           พ.ต.อ.พงศ์ปณต เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ กก.6.บก.ป. ร่วมกับสืบสวน จ.ปัตตานี เร่งสืบสวนแกะรอยคนร้ายจนสามารถจับกุมได้ สอบถามเบื้องต้นนายอนันตชัยให้การรับว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทองจริง ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสอบปากคำขยายผลหาสร้อยคอทองคำที่เหลือ และอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ





            นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ รวบรวมวัตถุพยานในที่เกิดเหตุ โดยเฉพาะรอยนิ้วมือแฝงของคนร้าย จากตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด สามารถจับภาพคนร้ายได้ชัดเจน เป็นชายอายุ 25-35 ปี สูงประมาณ 170 ซม. ใส่เสื้อและกางเกงสีดำ สวมหมวกแบบปีก ใส่แว่นตา และหน้ากากอนามัยปกปิดใบหน้า เดินวนไปวนมา บริเวณหน้าร้านทองหลายรอบ พนักงานสาวบอกว่าคนร้ายเดินไปเดินมาเห็นผิดสังเกตก็ได้แจ้งรปภ.แล้ว แต่ปรากฏว่าคนร้าย ชักอาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 มม. ออกมาข่มขู่จนต้องหนี



            ผู้ต้องหา ให้การว่าสาเหตุที่ก่อเหตุ เนื่องจากมีหนี้เงินกู้จำนวนมาก มีการวางแผนดูลาดเลาก่อนลงมือ 1 วัน และก่อเหตุครั้งนี้ครั้งแรก นำทองไปขายที่ร้านทองทั้งหมด 7 ร้าน ใน อ.หาดใหญ่ ร้านละ 1-2 เส้น



            พ.ต.อ.ญาณพงศ์ อุบลบาน ผกก.สภ.เมืองปัตตานี เปิดเผยว่า ก่อนที่ผู้ต้องหาไปชิงทองก็ได้เข้าไปกดเงินที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.อยู่ตรงข้ามห้าง จากนั้นได้เข้าไปซื้อน้ำในร้านสะดวกซื้อ และผู้ต้องหาได้ถอดหน้ากากอนามัยเพื่อดื่มน้ำ ทำให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบภาพวงจรปิดเห็นหน้าตาชัดเจน ทำให้รู้เส้นทางหลังก่อเหตุที่ใช้หลบหนี พร้อมได้ตรวจสอบความเชื่อมโยงกับมือถือ สรุปว่าตรงกันทั้งหมด จึงขออนุมัติจากศาลเพื่อขอหมายจับ เนื่องจาก ผู้ต้องหามีการเคลื่อนไหวไปที่ อ.สะเดา และที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าแสดงตัวเข้าจับกุมทันที



            หลังจับกุมผู้ต้องหาได้ เจ้าหน้าที่ได้ขยายผลจึงทราบว่ารถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุยังอยู่ในพื้นที่ปัตตานี จึงเข้าไปตรวจสอบ พบรถจักรยานยนต์ซุกซ่อนในบ้านหลังหนึ่ง และมีการพ่นสีใหม่ เพื่อดัดแปลงรถ จากเดิมสีดำ พ่นสีเป็นสีบรอนซ์เงิน และยังควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยอีก 1 คน จากที่ดูมือก็พบว่ามีร่องรอยคราบของสีติดอยู่ จึงคุมตัวไว้ หลังจากนี้จะสอบสอบว่ามีความเกี่ยวข้องตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุหรือหลังก่อเหตุ นอกจากนี้ ยังพบอาวุธปืน ตรวจแล้วเป็นอาวุธปืนบีบีกัน และยังพบกระเป๋าที่ใส่ปืนและทองอีกด้วย



          ผกก.สภ.เมืองปัตตานี กล่าวว่า คดีนี้ถือว่าเป็นคดีที่คลี่คลายได้เร็ว เราพยายามทำให้ประชาชนมีความมั่นใจว่า จ.ปัตตานี ปลอดภัยที่สุด เหตุการณ์ไม่ใช่เกิดเฉพาะ 3 จังหวัด ที่ไหนก็มีแต่เมื่อเกิดแล้วต้องจับได้ ดีที่สุดก็ไม่อยากให้เกิด ส่วนผู้หญิงที่ปรากฏอยู่ในกล้องวงจรปิด หลังเกิดเหตุเจ้าตัวมาให้ปากคำ และมีความสอดคล้องทุกอย่างว่าไม่มีความเกี่ยวข้อง จึงได้ตัดประเด็นเรื่องนี้ไป



 



#ชิงทองในห้าง



#ปัตตานี



CR:โปลิศไทยแลนด์-Police Thailand News, เพจToko 



 

ข่าวทั้งหมด

X