ในวันจันทร์นี้ (18 เม.ย.) สำนักงานสถิติจีนจะรายงานข้อมูลเศรษฐกิจในเดือนมีนาคม และไตรมาสแรกของปีนี้ (2565) ซึ่งคาดว่าเศรษฐกิจในเดือนมีนาคมจะชะลอตัวลงอย่างรวดเร็วจากในเดือนกุมภาพันธ์เนื่องจากการใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมโควิด-19 ในหลายพื้นที่ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคและโรงงาน แต่ภาพรวมเศรษฐกิจไตรมาส 1 (ม.ค.-มี.ค.2565) ยังเติบโตที่ระดับร้อยละ 4.4 ซึ่งเป็นอัตราที่มากกว่าในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว (ต.ค.-ธ.ค. 2564) ซึ่งอยู่ที่ระดับร้อยละ 4
ยอดค้าปลีก ซึ่งเป็นมาตรวัดการบริโภค มีแนวโน้มหดตัวลงร้อยละ 1.6 ในเดือนมีนาคมเมื่อเทียบกับในปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นอัตราที่น้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2563
ส่วนผลผลิตภาคอุตสาหกรรมมีแนวโน้มเติบโตร้อยละ 4.5 ในเดือนมีนาคมเมื่อเทียบกับในปีก่อนหน้า โดยชะลอตัวจากร้อยละ 7.5 ในช่วง 2 เดือนแรก
มีแนวโน้มที่เศรษฐกิจในเดือนเมษายน จะชะลอตัวลงต่อเนื่อง เพราะยังมีการใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั้งในเซี่ยงไฮ้และอีกหลายเมือง นักเศรษฐศาสตร์บางคน เตือนว่าความเสี่ยงจากภาวะถดถอยกำลังเพิ่มสูงขึ้น มีผลสำรวจความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญในสถาบันการเงิน 12 แห่งที่คาดการณ์ว่า จีดีพีของจีนในปีนี้ จะเติบโตที่ร้อยละ 5 และรัฐบาลจีนต้องเผชิญกับการต่อสู้ที่ยากลำบากเพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ระดับร้อยละ 5.5
ในสัปดาห์ที่แล้ว นายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อเฉียง กล่าวว่า ทางการจีนจะเพิ่มการสนับสนุนและเครื่องมือช่วยเหลือ เช่น ลดอัตรากันสำรองของธนาคารเพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด และเมื่อวันศุกร์ (15 เม.ย.) ธนาคารกลางจีน เปิดเผยว่า จะลดจำนวนเงินสดที่ธนาคารต้องถือไว้เป็นทุนสำรองเป็นครั้งแรกในปีนี้ พร้อมปล่อยสภาพคล่องระยะยาวประมาณ 530,000 ล้านหยวน (83,250 ล้านดอลลาร์)
....
#เศรษฐกิจจีน