เปิดผลวิจัย ฉีดไฟเซอร์เข็ม 3 ในกลุ่มเด็ก5-11ปี ต้านโอไมครอนได้

          บริษัทไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค ผู้ผลิตวัคซีนสหรัฐฯ-เยอรมนี เปิดเผย ผลการทดลองฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 สำหรับเด็กอายุ 5-11 ปี ในปริมาณ 10 ไมโครกรัม มีเด็ก 140 คนเข้าร่วมโครงการ จากการตรวจวิเคราะห์เลือดของเด็กกลุ่มดังกล่าว ทีมนักวิจัย พบว่า การฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ช่วยกระตุ้นแอนติบอดีหรือภูมิคุ้มกันในร่างกาย เพิ่มขึ้นจากเดิม 36 เท่า นับว่าสูงพอที่จะป้องกันไวรัสโอไมครอน และปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย แสดงให้เห็นว่าการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 จะช่วยรักษาระดับภูมิคุ้มกันให้สูงขึ้นสำหรับเด็กอายุ 5-11 ปี

          บริษัทไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค ระบุว่า เร็วๆนี้ บริษัทมีแผนจะเสนอให้องค์การอาหารและยาสหรัฐฯ เพื่อให้พิจารณาอนุมัติให้ฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 สำหรับเด็กอายุ 5-11 ปี เพื่อป้องกันโรคโควิด-19 ในสหรัฐฯ พร้อมทั้งจะเสนอเรื่องให้หน่วยงานควบคุมกฎระเบียบวัคซีนของรัฐบาลทั่วโลก รวมทั้ง องค์การยายุโรป พิจารณาอนุมัติเช่นกัน

          เบื้องต้น ยังไม่มีความชัดเจนว่า ในแง่ของความต้องการ เด็กอายุดังกล่าวมีความต้องการรับวัคซีนเข็มที่ 3 มากน้อยเพียงใด จากข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ(CDC)ของสหรัฐฯ เด็กอายุ 5-11 ปี เพียง 8 ล้านคน หรือร้อยละ 28 ของประชากรกลุ่มอายุดังกล่าวรับวัคซีนครบสองโดสแล้ว

          ในปัจจุบัน หลายฝ่ายยังมีข้อสงสัยว่า มีความจำเป็นเพียงใดที่เด็กกลุ่มอายุดังกล่าวจะรับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 เนื่องจากประชากรเด็ก มีการเจ็บป่วยหนักจนถึงขั้นเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลในอัตราที่ต่ำกว่าผู้ใหญ่ แต่ นพ.สก็อต แฮดแลนด์ หัวหน้าศูนย์สุขภาพเด็กและวัยรุ่น จากโรงพยาบาลเด็กแห่งรัฐแมสซาชูเซตส์ เปิดเผยว่า ผู้ปกครองหลายคนพาลูกหลานมาพบแพทย์ เพื่อขอให้ฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ระบุว่า แม้ว่าวัคซีนไม่สามารถป้องกันไวรัสได้ทุกสายพันธุ์ แต่อย่างน้อยที่สุด ข้อดีของวัคซีน คือ ช่วยลดการป่วยหนัก ลดอัตราการรักษาตัวในโรงพยาบาลและการเสียชีวิต

          เมื่อช่วงต้นปีนี้ องค์การอาหารและยาสหรัฐฯ อนุมัติให้ฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 สำหรับเด็กอายุ 12-15 ปี และให้ฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 สำหรับเด็กอายุ 5-11 ปี เฉพาะกรณีที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องเท่านั้น

#ไฟเซอร์

#วัคซีนเข็ม3 

#เด็กเล็ก