สหรัฐฯ ขยายเวลา สวมหน้ากากอนามัย บนรถโดยสารสาธารณะ ถึง 3 พ.ค.นี้

          ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ(CDC)ของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐฯมีมติให้ขยายมาตรการบังคับสวมหน้ากากอนามัยบนระบบขนส่งสาธารณะ เช่น รถโดยสาร ทั่วประเทศไปจนถึงวันที่ 3 พฤษภาคมนี้จากเดิมจะสิ้นสุดวันที่ 18 เมษายนนี้ พร้อมทั้งยกระดับการเฝ้าระวังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หลังมีผู้ป่วยใหม่กว่า 30,000 คนต่อวัน เพิ่มเล็กน้อยจาก 25,000 คนต่อวันในช่วง 2-3 สัปดาห์ก่อน

          ทีมผู้เชี่ยวชาญของ CDC จะศึกษาเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย เพื่อประเมินให้ชัดเจนว่า การระบาดของไวรัส BA.2 ซึ่งแยกย่อยมาจากไวรัสโอไมครอน คือสาเหตุหลักที่ทำให้ตัวเลขผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้น หรือไม่ พร้อมทั้งจะศึกษาในแง่ของอันตรายของไวรัส BA.2 เช่น อัตราการป่วยหนัก การรักษาตัวในโรงพยาบาลและการเสียชีวิต ตลอดถึงประเมินความสามารถของระบบสาธารณสุขของสหรัฐฯในการดูแลผู้ป่วยโควิด-19

          ก่อนหน้านี้ สำนักบริหารความมั่นคงการคมนาคม กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ ซึ่งออกกฎระเบียบควบคุมการบินพลเรือน รถประจำทาง รถไฟและศูนย์ขนส่งมวลชนทั่วประเทศสหรัฐฯ ให้ขยายมาตรการบังคับสวมหน้ากากอนามัยบนระบบขนส่งสาธารณะในเดือนที่แล้ว อ้างอิงประกาศจาก CDC ซึ่งมีนโยบายจัดทำข้อกำหนดเรื่องหน้ากากอนามัยให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดในปัจจุบัน

          ด้านรอยเตอร์รายงานว่า เรื่องข้อกำหนดการสวมหน้ากากอนามัยเป็นหนึ่งในมาตรการที่ชัดเจนที่สุดของภาครัฐในการควบคุมการแพร่ระบาด แต่ก็เป็นประเด็นที่เกิดปัญหาถกเถียงมากที่สุด เช่น เกิดเหตุทำร้ายร่างกายคนที่ไม่สวมหน้ากากอนามัย และบางครั้งเกิดเหตุรุนแรงบนเครื่องบินเนื่องจากปัญหาไม่ทำตามกฎระเบียบการสวมหน้ากากอนามัยสำหรับผู้โดยสารบางคน

#สหรัฐฯ

#สวมหน้ากากอนามัย