อังกฤษ อนุมัติวัคซีนเชื้อตายจากฝรั่งเศส มั่นใจ ต้าน'โอไมครอน'ร้อยละ 87

          ดร.จูน เรน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสำนักงานควบคุมยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ (MHRA) หน่วยงานกำกับวัคซีนของอังกฤษ เปิดเผยว่า คณะผู้เชี่ยวชาญของ MHRA ได้อนุมัติวัคซีนจากบริษัท วัลเนวา (Valneva)ของฝรั่งเศส สำหรับป้องกันโรคโควิด-19 ระบุว่า มีมาตรฐานครบตามข้อกำหนดของ MHRA ทั้งในด้านความปลอดภัย คุณภาพและประสิทธิภาพการป้องกันโรคโควิด-19 นับเป็นวัคซีนประเภทเชื้อตายตัวแรกที่ได้รับการอนุมัติให้ใช้ในอังกฤษ เป็นวัคซีนตัวที่ 6 ที่อังกฤษอนุมัติให้ใช้ป้องกันโรคโควิด-19 และเป็นประเทศแรกในโลกที่อนุมัติวัคซีนตัวนี้

          MHRA แนะนำให้ใช้วัคซีนวัลเนวา สำหรับคนไข้อายุ 18-50 ปี เป็นวัคซีนประเภทฉีด 2 เข็ม โดยการฉีดเข็มที่สองห่างจากเข็มแรก 28 วัน สำหรับข้อดีอีกอย่างหนึ่งของวัคซีนวัลเนวา คือ สามารถเก็บวัคซีนไว้ในตู้เย็นตามบ้านเรือนทั่วไปที่มีอุณหภูมิเฉลี่ย 2-8 องศาเซลเซียส จึงเหมาะสำหรับหลายประเทศที่อาจจะไม่สะดวกในการจัดเก็บวัคซีนในอุณหภูมิต่ำกว่านี้

           อีกทั้งใช้กรรมวิธีการผลิตที่ใช้กันโดยทั่วไปในการผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดและโรคโปลิโอ คือ ทีมวิจัยได้ทำการเพาะเชื้อไวรัสในห้องแล็บ จากนั้นใช้กรรมวิธีฆ่าเชื้อไวรัสให้เป็นเชื้อตาย ป้องกันไม่ให้ไวรัสแพร่เชื้อไปยังเซลล์อื่นๆหรือแบ่งตัวเพิ่มในร่างกาย ขณะเดียวกันยังสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกายเพื่อป้องกันโรคโควิด-19

          ด้านบริษัทวัลเนวา คาดว่า องค์การยาแห่งยุโรป(European Medicines Agency)ในฐานะหน่วยงานกำกับกฎระเบียบวัคซีนของยุโรปจะพิจารณาอนุมัติวัคซีนวัลเนวาสำหรับป้องกันโรคโควิด-19 ในกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู)ในเดือนนี้เช่นกัน ระบุว่า มีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสทั้งสายพันธุ์ก่อนๆเช่น เดลตา และไวรัสโอไมครอนร้อยละ 87

          เมื่อปลายปีที่แล้ว น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา ได้โพสต์ ข้อมูลวัคซีนเชื้อตายที่คิดค้นโดยฝรั่งเศส นับเป็นวัคซีนโควิดเชื้อตายตัวแรกของยุโรป โดยบริษัท Valneva ของฝรั่งเศส แถลงว่า ทางบริษัท ได้ทำการวิจัยพัฒนาวัคซีนเทคโนโลยีเชื้อตายโดยเริ่มมาตั้งแต่มกราคม 2563 แต่ติดขัดอุปสรรคบางประการจึงเพิ่งจะมีความคืบหน้าทดลองเฟส 3 เมื่อปีที่แล้ว และในขณะนี้ มีประเทศอังกฤษ สนใจสั่งจองไว้แล้ว 100 ล้านโดส

          บริษัท Valneva ของฝรั่งเศส ได้วิจัยพัฒนาวัคซีนที่ใช้ชื่อว่า VLA 2001 โดยเป็นการใช้ไวรัสทั้งตัว มาทำให้ตาย ที่เรียกว่าวัคซีนเทคโนโลยีเชื้อตาย โดยจะเน้นให้มีโปรตีนส่วนหนาม(S-protein) เป็นหลัก แต่ก็จะมีส่วนอื่นด้วย คาดว่าน่าจะรองรับไวรัสกลายพันธุ์ได้ดี เพราะมีส่วนต่างๆของไวรัสทั้งตัว ไม่ใช่เฉพาะส่วนหนาม โดยวัคซีนจะมีการเติมตัวกระตุ้น(Adjuvant) สองชนิดคือ alum และ CpG 1018 ซึ่งจะทำให้ระดับภูมิคุ้มกันขึ้นสูงกว่าปกติ คาดว่าวัคซีนดังกล่าว จะเหมาะสำหรับการใช้ฉีดในกลุ่มเสี่ยง เช่น อายุมาก หรือภูมิคุ้มกันต่ำ และคาดว่าจะเป็นประโยชน์อย่างมากในการเป็นวัคซีนเข็มกระตุ้นหลังจากวัคซีนเทคโนโลยีอื่นแล้ว

          สำหรับการทดลองเฟสสามได้ทดลองอยู่ในประเทศอังกฤษและนิวซีแลนด์

#อังกฤษ

#อนุมัติวัคซีนฝรั่งเศส