ประเทศจีน ประกาศล็อกดาวน์นครเซี่ยงไฮ้มากว่า 3 สัปดาห์ ให้ประชาชน 25 ล้านคนอยู่บ้าน และจัดโครงการตรวจโรคโควิด-19 รอบใหม่ให้กับประชาชนตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา จนกระทั่งดำเนินการตรวจโรคเสร็จเมื่อเวลา 08.00 น.ของวันนี้(11 เมษายน 2565) พบผู้ป่วยใหม่รวม 25,996 คน นับเป็นการแพร่ระบาดใหม่ครั้งใหญ่ที่สุดของจีนนับตั้งแต่พบการระบาดครั้งแรกในเมืองอู่ฮั่น ปลายปี 2562 แต่หลายฝ่าย หวั่นเกรงว่าการปิดเมืองนานๆจะกระทบเศรษฐกิจท้องถิ่น
นายกู้ หงฮุย รองเลขาธิการรัฐบาลนครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เปิดเผยว่า รัฐบาลนครเซี่ยงไฮ้ จัดทำแผนเปิดเมืองให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน เพื่อลดผลกระทบต่อการใช้ชีวิตตามปกติของประชาชน หวังว่าทุกคนจะช่วยเหลือซึ่งกันและกันและให้ความร่วมมือกับมาตรการควบคุมโรคของนครเซี่ยงไฮ้
ภายใต้แผนเปิดเมือง นครเซี่ยงไฮ้ได้แบ่งประเภทย่านที่พักอาศัยของประชาชนในนครเซี่ยงไฮ้ 3 ประเภท โดยประเมินจากผลการตรวจโรคเป็นหลัก
-ประเภทแรกได้แก่ พื้นที่เสี่ยงสูงสุด มีจำนวนรวม 7,624 แห่ง จะถูกล็อกดาวน์ต่อไปอีกสักระยะหนึ่งจนกว่าสถานการณ์จะมีแนวโน้มดีขึ้น
-ประเภทที่ 2 มี 2,460 แห่ง เรียกว่า พื้นที่ควบคุมหลังไม่พบผู้ป่วยใหม่มา 1 สัปดาห์
-และประเภทที่ 3 เรียกว่า พื้นที่ป้องกันหลังไม่พบ ผู้ป่วยใหม่มา 2 สัปดาห์ โดยจะเริ่มเฉพาะพื้นที่ชุมชนประเภทที่ 3 มึจำนวน 7,565 แห่ง ที่นครเซี่ยงไฮ้ จะอนุญาตให้ประชาชนเดินทางได้ภายในชุมชนมีผลตั้งแต่วันนี้ (11 เมษายน 2565) เป็นต้นไป แต่ยังกำชับให้ทำตามมาตรการเว้นระยะห่างเพื่อความปลอดภัย แต่หากยังคุมการแพร่ระบาดระลอกใหม่ไม่อยู่ มาตรการล็อกดาวน์อาจจะกลับบังคับได้อีกครั้ง
นายเหลียง วันเนียน หัวหน้าคณะทำงานด้านการจัดทำแผนควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สังกัดคณะกรรมาธิการสาธารณสุขแห่งชาติจีน กล่าวถึง การจัดทำแผนเปิดเมืองของนครเซี่ยงไฮ้ ลักษณะนี้ นับเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการควบคุมการแพร่ระบาด โดยย้ำว่า ไวรัสโอไมครอน แม้ไม่ทำให้ป่วยหนัก แต่เป็นอันตรายสำหรับผู้สูงอายุ
ในปัจจุบัน ประเทศจีนมีผู้ป่วยสะสม 165,577 คน เสียชีวิต 4,638 ราย ตามรายงานของ 'Worldometers' ซึ่งจีนอยู่อันดับที่ 113 ของโลก
#ประเทศจีน
#นครเซี่ยงไฮ้
#คลายล็อกดาวน์