*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30น.
++++ปิดฉากลงแล้วสำหรับเก้าอี้ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ของ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงนามในคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน และให้ย้าย นพ.ณรงค์ ไปเป็น "ที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิของนายกรัฐมนตรี" หลังจากเกิดความขัดแย้งในการทำงานร่วมกับฝ่ายการเมือง อันนำโดย ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว.สธ. และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) มายาวนาน
+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงว่า การย้าย นพ.ณรงค์ ไม่ใช่ความขัดแย้ง แต่เป็นความต้องการของ นพ.ณรงค์ เอง ที่บอกไว้นานแล้วว่า หากทำงานไม่ได้ก็จะขอย้ายมาอยู่ร่วมงานกับตนเอง เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้หากไม่ปรับย้าย กระทรวงสาธารณสุขจะมีปัญหา จากคำสั่งที่ทับซ้อนกัน จนเกิดความขัดแย้ง ทำงานกันไม่ได้ นายปรเมษฐ์ จินา ประธานชมรมสาธารณสุขแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับการย้าย นพ.ณรงค์ ซึ่งอีก 6 เดือนก็จะเกษียณแล้ว นอกจากนี้ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา นพ.ณรงค์ ได้ต่อสู้เรื่องการ ทุจริตคอร์รัปชั่น และที่มาของรัฐบาลนี้ก็เป็นผลมาจากการเคลื่อนไหวของ สธ.ด้วยส่วนหนึ่ง ชมรมสาธารณสุขแห่งประเทศไทยเตรียมส่งตัวแทนเข้าให้กำลังใจ นพ.ณรงค์ และขอรับทราบเหตุผลในการโยกย้ายในวันที่ 12 มี.ค.นี้ เวลา 09.00 น. ที่กระทรวงสาธารณสุข มีรายงานว่า ได้มีการเผยแพร่ข้อความชักชวนทางสื่อออนไลน์นัดข้าราชการ สธ.แต่งชุดดำทั่วประเทศ พร้อมทั้งติดป้ายให้กำลังใจ นพ.ณรงค์ ทุกหน่วยบริการสาธารณสุขทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค.นี้เช่นกัน
+++จุดแตกหักเริ่มเมื่อปลัด สธ. ส่งสัญญาณ ไม่เอาการจัดสรรงบประมาณเหมาจ่ายรายหัว ของ สปสช. ที่หมอรัชตะนั่งเป็นประธานโดยหมายมั่นปั้นมือให้กันงบประมาณไปลงที่ "เขตบริการสุขภาพ" ของกระทรวงแทน รวมถึงให้ยุบเลิกกองทุนบริหารจัดการหมวดเฉพาะ แม้ รมว.สธ. จะตั้งคณะทำงานเจรจา 2 ฝ่าย ลากยาวมานาน 5 เดือน แต่ก็ยังเกิดปรากฏการณ์ ดื้อแพ่งจากหมอณรงค์ และฝ่ายข้าราชการประจำอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการออกหนังสือโดย นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัด สธ. ขอให้ข้าราชการไม่เข้าร่วมประชุมกับ สปสช. การรวมตัวของผู้ตรวจราชการ สธ. ขอให้ตรวจสอบการใช้จ่ายเงินของ สปสช. การประกาศของชมรมผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป ว่าจะไม่ส่งข้อมูลผู้ป่วยให้กับ สปสช. เรื่อยไปจนถึงการประกาศ "ไม่รับทำบัตรทอง" ของโรงพยาบาลสังกัดกระทรวง
+++ขณะที่คณะกรรมการคนกลางที่รัฐมนตรีตั้งมาแก้ปัญหาอย่าง คณะกรรมการแก้ปัญหาโรงพยาบาลขาดทุน ที่ให้ นพ.ยุทธ โพธารามิกอดีตรองปลัด สธ. และคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ ที่ให้ ศ.อัมมาร สยามวาลา เป็นประธาน ก็ล่มตั้งแต่ยังไม่เริ่ม เนื่องจากปลัดสธ. ปฏิเสธส่งคนเข้าร่วมทั้งคู่ ในที่สุดรัฐมนตรีจึงเสนอวาระ "ย้ายปลัด" เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 ก.พ.แต่เรื่องดังกล่าวถูกเบรกโดยนายกรัฐมนตรี ขอให้พิจารณาอย่างรอบคอบอีกครั้ง ไม่ให้เกิดปัญหาการฟ้องร้องศาลปกครองจนกลายเป็นชนักติดหลัง และนายกฯ ยังย้ำอีกว่า หลังจากนี้จะดูแลเรื่องของปลัด สธ.ด้วยตัวเอง ไม่ต้องผ่านคณะรัฐมนตรีอีก จากนี้ได้เวลาทดสอบฝีมือของฝ่ายการเมืองแล้วว่า เมื่อไม่มีปลัด สธ. ผลงานของรัฐมนตรีจะออกมาอย่างที่โฆษณาไว้หรือไม่
+++ส่วนในวันนี้ที่ประชุมสภานิติ บัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะแถลงปิดคดีและลงมติถอดถอนอดีต 38 สว. กรณีแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องที่มา สว.โดยมิชอบ ซึ่งกำหนดให้เป็นการลงคะแนนลับ ก่อนหน้านี้ นายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการป.ป.ช. แถลงปิดคดีว่า 38 อดีตส.ว.ใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ โดยร่างรัฐธรรมนูญที่อดีต 38 ส.ว.ได้พิจารณาลงมติในวาระ 1-3 เป็นคนละฉบับกับร่างที่ได้เข้าชื่อเสนอร่วมกับนายอุดมเดช รัตนเสถียร อดีตส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทยต่อประธานสภาฯ เมื่อวันที่ 20 มี.ค.56 โดยร่างที่ใช้ลงมติมีการแก้ไขหลักการสำคัญมีแถมมาตรา 6 ที่ให้ส.ว.สามารถลงสมัครส.ว.อีกสมัยได้โดยไม่ต้องเว้นวรรค นายกฤช อาทิตย์แก้ว อดีต ส.ว.กำแพงเพชร นายวิทยา อินาลา อดีต ส.ว.นครพนม นายดิเรก ถึงฝั่ง อดีต ส.ว.นนทบุรี ต่างลุกขึ้นแถลงได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาของป.ป.ช.ยืนยันการทำหน้าที่ของอดีต ส.ว.ชอบด้วยกฎหมาย ทั้ง38ส.ว.ไม่เคยใช้อำนาจกระทำการขัดต่อรัฐธรรมนูญ 2550 พร้อมตอบโต้กระบวนการพิจารณาของป.ป.ช.ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งๆที่คสช.ประกาศยกเลิกรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 ดังนั้นเมื่อบทลงโทษตายไปแล้ว สำนวนชี้มูลความผิดทั้งหมดก็ต้องยกเลิกไปด้วย นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสนช. คนที่ 1 อธิบายถึงกระบวนการลงมติว่า จะแบ่งเป็น 4 กลุ่มความผิด เป็นบัตร 4 ใบ 4 สี แล้วให้สมาชิกลงคะแนนลับ
+++ส่วนการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ มีนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ เป็นประธาน โดยที่ประชุมมีการถกเรื่องการสำรวจความเห็นประชาชนเพื่อรับฟังความเห็นและข้อเสนอแนะต่อการยกร่างรัฐธรรมนูญ นี้นางถวิลวดี บุรีกุล กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ ในฐานะประธานอนุ กมธ.การมีส่วนร่วมและรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ระบุว่า การสำรวจความคิดเห็นรอบต่อไปจะจัดขึ้นหลังเทศกาลสงกรานต์ในเดือนเมษายนนี้ แต่ที่ประชุมเสนอแนะว่ารอบต่อไปขอให้คณะทำงานฯ ซึ่งเป็นทีมนักวิชาการของสถาบันพระปกเกล้านำแบบสำรวจและคำถามที่จะสอบถามประชาชนมาให้ที่ประชุม กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญพิจารณาเพื่อให้เกิดความรอบคอบก่อน พร้อมกับให้มีการจัดพิมพ์และแจกร่างรัฐธรรมนูญให้ประชาชนอ่านก่อนตอบแบบสอบถามด้วย ก่อนหน้านี้คณะอนุกมธ.การมีส่วนร่วมฯ เปิดเผยผลสำรวจพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่สนับสนุนให้นายกรัฐมนตรีมาจากสส. และให้คงระบบเลือกตั้งสส.แบบเขตและระบบบัญชีรายชื่อเหมือนเดิม ซึ่งเท่ากับกับผลโพลล์ออกมาตรงกันข้ามกับการยกร่างของกมธ.
++++ความคืบหน้าคดีลอบวางระเบิดหน้าศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. เปิดเผยถึง ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทหารได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาร่วมกันวางระเบิดศาลอาญา และอยู่ในความควบคุมของทหารประมาณ 6-7 คน จากทั้งหมด 9 คน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผย รายชื่อได้ และคาดว่า เจ้าหน้าที่ทหารจะส่งมอบตัวผู้ต้องหาให้กับตำรวจ ที่ บช.น. ภายในวันที่ 13 มี.ค. เพื่อดำเนินการสอบสวนตาม ป.วิอาญา ต่อไป มีรายงานด้วยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทหารได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ได้อีก 1 ราย ทราบชื่อ นายสรรเสริญ ศรีอุ่นเรือน อายุ 63 ปี และเจ้าหน้าที่ทหารจะนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งให้คณะพนักงานสอบสวน ที่ บช.น. ในวันที่ 13 มี.ค. เวลาประมาณ 08.00 น. เพื่อสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบ จากนั้นจะนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพประกอบสำนวนคดี และนำตัวไปฝากขังในวันที่ 14 มี.ค. ต่อไป นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่าระเบิดที่เกิดขึ้น เป็นระเบิดการเมือง มีเป้าประสงค์เป็นเรื่องของอำนาจ
+++ส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคปชป. ยืนยัน ว่าจะนำหลักฐานของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มาใช้ประกอบการชี้แจงคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดว่ามีพฤติการณ์ส่อว่าปฏิบัติหน้าที่มิชอบจากการสลายการชุมนุมกลุ่ม นปช. ในปี 2553 เพื่อจะชี้ให้เห็นว่ามีกลุ่มติดอาวุธหรือชายชุดดำแฝงตัวอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม แต่จะไม่อ้างถึงนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีดีเอสไอ ซึ่งเป็นคนทำคดี
+++ส่วนกรณี ป.ป.ช. 5 คนพ้นวาระ จะมีผลทำให้คดีต้องสะดุดหรือหยุดลงหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ ป.ป.ช. จะต้องพิจารณาว่า จะแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างไร แต่นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งรับผิดชอบดูแลคดีนี้มาตั้งแต่ต้น จะครบวาระในเดือน ก.ย. 2558 เชื่อว่านายวิชา น่าจะพยายามทำให้แล้วเสร็จก่อนพ้นวาระ เนื่องจากเป็นประเด็นสังคมให้ความสนใจ
+++วอลล์สตรีทเจอร์นัล ระบุว่าจากการมองด้วยสายตา วัดธรรมกายซึ่งตั้งอยู่ย่านทางเหนือของกรุงเทพฯ มีลักษณะของเจดีย์ต่างจากเจดีย์วัดอื่นๆและมีรูปร่างเหมือนกับจานบิน โดยธรรมกายเป็นหนึ่งในวัดที่เติบโตรวดเร็วที่สุดและมั่งคั่งที่สุดในไทย นับแล้วมีสาวกอยู่ราวๆ 10 ล้านคนทั่วโลก หลังจากก่อตั้งในปี 1970 ซึ่งจำนวนมากเป็๋นชนชั้นกลางของประเทศ ขณะที่ตำรวจกำลังสืบสวนคำกล่าวหานักธุรกิจคนหนึ่งบริจาคเงินเกือบ 25 ล้านดอลลาร์ที่ได้มาจากการฉ้อโกงสหกรณ์เครดิตยูเนียน เพื่อหวังมีหน้าที่การงานดีในชาติหน้า แต่เจ้าหน้าที่วัดยืนยันว่าไม่ได้ทำอะไรผิด ส่วนนักธุรกิจคนดังกล่าวยังไม่ถูกตั้งข้อกล่าวหา วอลล์สตรีทเจอร์นัล รายงานว่าความเดือดดาลของชาวพุทธหัวอนุรักษ์นิยมต่อกรณีดังกล่าว มีขึ้นตามหลังข่าวคราวอื้อฉาวอื่นๆยาวเหยียดที่เกี่ยวข้องกับเหล่าพระสงฆ์ในไทย ไล่ตั้งแต่เสพยาเสพติด ประพฤติผิดในกาม ไปจนถึงมีพฤติกรรมทางการเงินไม่เหมาะสม แอล.อัศวโฆษ นักวิชาการและนักเคลื่อนไหวพุทธอินเดียชื่อดัง เมื่อเร็วๆนี้ได้เขียนถึงเจ้าหน้าที่พระพุทธศาสนาของไทย เตือนว่าความแตกแยกในหมู่พระสงฆ์ของไทย อาจทำให้ความศรัทธาต่อพระพุทธศาสนาในหมู่พุทธศาสนิกชนทั่วโลก ลดน้อยถอยลงไปอีก "ประชาชนทั่วโลกกำลังมองมาที่ไทย ถึงการฟื้นฟูพระพุทธศาสนา"
+++พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล ผู้อำนวยการส่วนตรวจ 2 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะหัวหน้าชุดตรวจสอบความเชื่อมโยงระหว่างสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด (จก.) และวัดพระธรรมกาย เปิดเผยถึงการออกหมายเรียกสอบพยานบุคคลและนิติบุคคลที่มีชื่อรับเช็คจากนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์ฯคลองจั่นเข้าให้ปากคำพนักงานสอบสวนว่า ตามตารางการสอบปากคำในวันนี้ พระมนตรี สุดาภาโสที่มีชื่อรับเช็ค 100 ล้านบาทจากนาย ศุภชัยต้องเข้าให้ปากคำ แต่เกิดความคลาดเคลื่อนเนื่องจากวันที่พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกพระมนตรีเข้าให้ปากคำระบุเป็นวันที่ 12 มีนาคม ซึ่งทราบจากทนายความของพระธัมมชโยว่าพระมนตรีไม่มีเบอร์โทรศัพท์จึงได้ให้พระสุวิชญ์ วัดพระธรรมกาย ที่สามารถติดต่อได้เป็นผู้ประสานติดต่อพระมนตรีให้เดินทางมาให้การกับพนักงานสอบสวน เบื้องต้นทราบว่าพระมนตรียังจำวัดอยู่ที่ จ.เชียงใหม่
+++ที่ดีเอสไอ นพ.มโน เลาหวณิช อดีต พระลูกวัดวัดพระธรรมกาย เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงนางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีดีเอสไอ เพื่อขอให้ดูแลความปลอดภัยภายหลังถูกข่มขู่ รวมทั้งการตรวจสอบทางโลกออนไลน์ เนื่องจากถูกใส่ร้ายป้ายสีและหมิ่นประมาทด้วย นอกจากน้น ยังได้ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ พระภาวนาวิริยคุณ หรือ พระทัตตชีโว รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ผู้ดูแลเว็บไซต์เฟซบุ๊ก "ตื่นเถิดชาวพุทธWake Up Buddhist " ข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นข้อมูลที่เป็นเท็จ จึงทำให้เกิดความเสียหายต่อตนและครอบครัว จึงอยากให้ บก.ป. จัดกำลังคุ้มครองในฐานะพยานปากสำคัญคดีวัดพระธรรมกาย