อียูคว่ำบาตรรัสเซียครั้งที่ 5 ห้ามนำเข้าถ่านหินรัสเซีย จะมีผล ส.ค.นี้

          คณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป ในฐานะตัวแทน 27 ประเทศสมาชิกของกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู)ระบุในแถลงการณ์ว่า จากกรณีรัสเซียรุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ และการสังหารหมู่พลเรือนในเมืองบูชา ชานกรุงเคียฟของยูเครน กลุ่มอียู มีมติในวันนี้(8 เมษายน 2565) ให้คว่ำบาตรรัสเซียครั้งที่ 5 มีผลคือ ห้ามประเทศสมาชิกอียูนำเข้าถ่านหิน ไม้ สารเคมี ซีเมนต์ ปุ๋ย อาหารทะเล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และผลิตภัณฑ์อื่นๆจากรัสเซีย  โดย กลุ่มอียูนำเข้าสินค้าจากรัสเซียรวมมูลค่า 5,500 ล้านยูโรต่อปี

          แต่เฉพาะคำสั่งห้ามนำเข้าถ่านหินจากรัสเซียจะเริ่มมีผลตั้งแต่สัปดาห์ที่สองของเดือนสิงหาคมนี้เป็นต้นไป ทั้งห้ามประเทศสมาชิกอียูลงนามในข้อตกลงทางธุรกิจฉบับใหม่กับรัสเซีย เริ่มจากวันนี้ ซึ่งเป็นวันที่มีการเผยแพร่คำสั่งเรื่องนี้ในวารสารทางการของกลุ่มอียู ห้ามประเทศสมาชิกอียูส่งออกน้ำมันเครื่องบิน เซมิคอนดักเตอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ซอฟท์แวร์ อะไหล่รถยนต์ หรือเครื่องจักรกลไปยังรัสเซีย

          มาตรการคว่ำบาตรของกลุ่มอียู รวมถึงการห้ามรถยนต์และรถบรรทุกรัสเซียและเบลารุสแล่นเข้าไปยังดินแดนของรัฐสมาชิกอียูในยุโรปตะวันออก เว้นแต่บรรทุกเครื่องมือแพทย์ อาหารและสิ่งของบรรเทาทุกข์เพื่อช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ห้ามเรือรัสเซียเข้าจอดเทียบท่ายังท่าเรือของกลุ่มอียู ยกเว้นเรือบรรทุกสิ่งของช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม กลุ่มอียูคาดว่ามาตรการเช่นนี้จะกระทบการค้าของรัสเซีย อีกทั้งห้ามสมาชิกอียูทำธุรกรรมทางธนาคารกับธนาคาร 4 แห่งของรัสเซีย รวมทั้งธนาคาร VTB พร้อมทั้งให้ขึ้นบัญชีคณะบุคคลชาวรัสเซีย 217 คนและองค์กร 18 แห่งในรายชื่อที่ถูกอียูคว่ำบาตร

          กรณีมีรายงานว่า รายชื่อบุคคลที่ถูกคว่ำบาตรรวมถึงลูกสาว 2 คนของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียคือ นางมาเรีย โวรอนต์โซวา อายุ 36 ปี และนางคาเทอรินา ทิโคโนวา อายุ 35 ปี แต่กลุ่มอียูชี้แจงว่า จะมีการเปิดเผยรายชื่อคณะบุคคลและองค์กรชาวรัสเซียที่ถูกคว่ำบาตร ในวารสารทางการของกลุ่มอียู ที่จะมีการเผยแพร่เร็วๆ นี้ 

#อียู

#คว่ำบาตรรัสเซีย

#วิกฤติยูเครน