*นัดรวมตัวให้กำลังหมอณรงค์/สนช.แจงขั้นตอนลงมติถอดถอนอดีต38สว./ธปท.เตรียมปรับคาดการณ์ศก.หลังชะลอตัว*

11 มีนาคม 2558, 21:14น.


+++ความเคลื่อนไหวภายในกระทรวงสาธารณสุข ที่ต้องจับตามอง  12 มี.ค.เวลา 08.00 น. ชมรมโรงพยาบาลศูนย์(รพศ.)/โรงพยาบาลทั่วไทย(รพท.)/ประชาคมสาธารณสุข/ชมรมหมออนามัย นัดรวมตัวกันกว่า 1,000 คน มาให้กำลังใจ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข คัดค้านคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี และขับไล่รัฐมนตรีสาธารณสุข เพราะถือเป็นการปฏิบัติต่อข้าราชการอย่างไม่เป็นธรรม. นายสาคร นาต๊ะ นายกสมาคมหมออนามัย กล่าวว่าเครือข่ายชมรมวิชาชีพสาธารณสุข 58 ชมรมในประชาคมสาธารณสุขประมาณ 1,000 คน จะสวมชุดเครื่องแบบวิชาชีพของตัวเองไปที่กระทรวงสาธารณสุข เพื่อคัดค้านการปลดนพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ออกจากตำแหน่ง พร้อมแสดงจุดยืนเรียกร้องไปยังรัฐบาลว่า ข้าราชการที่ดีต้องมีที่ยืน เนื่องจาก เห็นว่า กระทรวงมีปัญหาเยอะมากทั้งเรื่องคน เงิน  ปลัดฯ ก็มารับเรื่องไปแล้วนำไปเสนอต่อให้ เลยมองว่าคนที่กล้าคิด กล้าเสนอ กล้าออกมาส่งเสียงในที่สาธารณะอย่างปลัด แต่ขนาดว่า เป็นปลัดยังโดนอย่างนี้สะท้อนว่า กระทรวงสาธารณสุขไม่ต้องมาเสนออะไรอีกอย่างนั้นหรือ เพราะที่ปลัดทำก็ไม่ได้ทำเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง



+++ขณะที่ น.พ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจง  สาเหตุการย้ายว่า เนื่องจาก น.พ.ณรงค์ ไม่สามารถทำงานสนองนโยบายด้านสาธารณสุขของรัฐบาลได้ ส่วนปัญหาแรงกระเพื่อมภายในกระทรวง เชื่อว่าจะไม่บานปลาย และอยากให้ทำงานร่วมกัน เนื่องจากรัฐบาลมีเวลาจำกัด ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  ก็รับทราบปัญหาแล้วและให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน เพื่อหาสาเหตุความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้ก็ได้ตั้งคณะกรรมการเรียบร้อยแล้ว แต่จะต้องรอผลการสอบก่อน และก่อนหน้านี้ ได้เรียกน.พ.ณรงค์ เข้ามาพูดคุยแล้ว ส่วนการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ ในวันพรุ่งนี้ ที่นัดรวมตัวมาให้กำลังใจนพ.ณรงค์ เชื่อว่าจะไม่กระทบการทำงานของกระทรวง



+++พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า มีผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมคดีปาระเบิดศาลอาญาแล้ว 7 คน จากที่ถูกออกหมายจับ 9 คน ทั้งหมดยังอยู่ในการดูแลของทหาร ตามกฎอัยการศึกที่ให้อำนาจในการควบคุมตัวได้ 7 วัน จึงได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนที่เกี่ยวข้อง เร่งสอบพยานที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ทั้งหมด และเตรียมความพร้อมในการสอบสวนผู้ต้องหา หากทหารนำตัวมามอบให้ตำรวจ ซึ่งคาดว่าน่าจะนำมามอบให้ตำรวจได้ภายในวันศุกร์นี้



+++การฟ้องร้องความเสียหายทางแพ่งต่อน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในโครงการรับจำนำข้าว นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวว่า ได้หารือร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีความชัดเจนว่า กระทรวงการคลังเป็นโจทก์ยื่นฟ้องทางแพ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ขณะที่กระทรวงพาณิชย์เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ กับพวกทั้งหมด 21 คน ทั้งนี้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ได้ส่งเรื่องมาให้คณะรัฐมนตรี(ครม.) รับทราบแล้วเมื่อวานนี้ แต่ยังไม่ทราบว่า จะเรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงินเท่าใด  ตามกฏหมายกำหนดให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมา ประกอบด้วย ข้าราชการจากกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฏีกา และสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงและกำหนดค่าเสียหาย ทั้งนี้ในวันที่ 19 มี.ค. ศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะชี้ว่า จะรับฟ้องคดีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์หรือไม่ ถ้าศาลฎีกาฯรับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็จะมีฐานะเป็นจำเลย ต้องไปต่อสู้คดีอาญา ส่วนคดีทางแพ่งยังไม่เริ่มกระบวนการ 



+++นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวชี้แจง ขั้นตอนการลงมติถอดถอนถอดถอน 38 อดีต ส.วหรือไม่ ในวันพรุ่งนี้ ว่า การออกเสียงลงมติจะใช้วิธีการแจกบัตรสีต่างๆ ให้สมาชิกจำนวน 4 ใบ เพื่อลงมติตามฐานความผิด โดยแต่ละใบจะมีช่องให้สมาชิกกากบาท ในช่องถอดถอนหรือไม่ถอดถอน แบ่งเป็นบัตรสีส้ม มีผู้ถูกกล่าวหาจำนวน 22 คน บัตรสีขาวจำนวน 13 คน บัตรสีเขียวจำนวน 1 คน และบัตรสีฟ้าจำนวน 2 คน  ทั้งนี้ คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 3 ชั่วโมง



+++ในวันนี้ มีการแถลงปิดสำนวนคดี  นายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการป.ป.ช.ในฐานะผู้กล่าวหา ระบุว่า อดีต 38 ส.ว.จงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ทั้งการร่วมลงชื่อเสนอร่างแก้ไข และไม่ได้นำร่างที่เสนอตั้งแต่ต้นมาพิจารณาลงมติ  โดยมีเจ้าหน้าที่ให้ถ้อยคำยืนยันกับ ป.ป.ช.ว่า เป็นผู้เปลี่ยนร่างแก้ไขดังกล่าวในวันที่ 27 มี.ค. 2556 โดยผู้ที่นำร่างมาเปลี่ยนเป็นผู้ช่วยของนายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานวิปรัฐบาลในขณะนั้น จึงทำให้ร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าวไม่ใช่ร่างที่เสนอโดยกลุ่มบุคคลที่เสนอแก้ไข นายวิชัย กล่าวว่า ดังนั้น การลงมติในร่างกฎหมายดังกล่าว ถือเป็นการใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ  และบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญไม่ได้ให้อำนาจผู้ยื่นญัตติแก้ไขโดยพลการ และไม่สามารถนำร่างใหม่มาปรับเปลี่ยนได้ อีกทั้ง ร่างใหม่ที่สับเปลี่ยน เป็นการปลดล็อคให้ ส.ว.ไม่ต้องเว้นวรรค 2 ปี  เมื่อพ้นวาระ สามารถลงสมัคร ส.ว.ต่อได้เลย



+++ด้าน นายกฤช อาทิตย์แก้ว อดีต ส.ว.กำแพงเพชร ในฐานะตัวแทนผู้ถูกกล่าวหา ชี้แจงว่า มติการชี้มูลความผิดของ ป.ป.ช.ไม่ชอบด้วยเหตุผลหลายประการ เพราะการจะชี้มูลถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ ผู้ยื่นต้องมีอำนาจ นายกฤช กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า  1 ในกรรมการ ป.ป.ช. คือ นายภักดี โพธิศิริ ขาดคุณสมบัติ เนื่องจากไม่ได้ลาออกจากการเป็นกรรมการในบริษัทหนึ่ง ตามที่ระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด เท่ากับว่าเอกสารลงนามดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย อีกทั้ง ป.ป.ช.ยังมีการประชุมกันก่อนที่จะมีการยื่นคำร้องถอดถอน และในมติชี้มูลยังมีชื่อนางสุภา ปิยะจิตติ ร่วมพิจารณา ทั้งที่เพิ่งได้รับโปรดเกล้าฯ เป็นกรรมการ หลังจากที่มีการพิจารณาสำนวนไปแล้ว



+++นางอังคณา นีละไพจิตร ภรรยาของ นายสมชาย นีละไพจิตร เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อขอให้เปลี่ยนหัวหน้าและทีมพนักงานสอบสวน ในคดีการหายตัวไปของทนายสมชายใหม่ทั้งหมด เนื่องจากที่ผ่านมากว่า 11 ปี คดีไม่มีความคืบหน้า  ขอเรียกร้องให้อธิบดีดีเอสไอ เปลี่ยนหัวหน้าพนักงานสอบสวน และแต่งตั้งคณะทำงานใหม่ทั้งหมด เพื่อเร่งรัดให้มีการสืบสวนอย่างโปร่งใส และเป็นธรรม เพื่อนำตัวผู้ต้องหามาลงโทษ  



+++นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า การลดดอกเบี้ยของคณะกรรมการนโยบายการเงินหรือกนง. ลงร้อยละ0.25ทำให้ดอกเบี้ยปัจจุบันอยู่ที่ ร้อยละ1.75 มีผลจิตวิทยาแต่ไม่ได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจเพราะปัญหาหนี้ครัวเรือนยังอยู่ระดับสูง และถ้าเศรษฐกิจไม่ได้ฟื้นตัวขึ้นอย่างที่หวังจะทำให้เกิดปัญหาได้เนื่องจากดอกเบี้ยปัจจุบันอยู่ระดับต่ำแต่สภาพคล่องในประเทศสูง อาจมีการเก็งกำไรการลงทุนที่ไม่เหมาะสม นอกจากนี้ ไม่ได้ช่วยให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงมากนักและการดูแลค่าเงินเป็นหน้าที่ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ส่วนเศรษฐกิจไทยปีนี้คาดว่าจะโตร้อยละ3-4 และเครื่องมือที่จะช่วยสนับสนุนการเติบโตเศรษฐกิจไทยคือการเบิกจ่ายภาครัฐ



+++ล่าสุด ธนาคารไทยพาณิชย์ ขานรับนโยบายธปท. นำร่องประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ MLR ลงร้อยละ 0.20  เพื่อเป็นการช่วยลดต้นทุนของลูกค้าธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจเอสเอ็มอี มีผลตั้งแต่วันที่ 12มีนาคม 2558เป็นต้นไป  นางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ย MLR อยู่ที่ 6.55 % ต่อปี ในส่วนของอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำลง 0.20% ต่อปี โดยปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 3 เดือน อยู่ที่ 0.90 - 0.95%ต่อปี อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 6 เดือน อยู่ที่ 1.15 -1.20% ต่อปี และ อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือน อยู่ที่ 1.50% ต่อปี ลูกค้าสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ทุกสาขา หรือ SCB Call Center (02) 777-7777



+++หุ้นไทยขานรับ กนง.ลดดอกเบี้ย ปิดตลาดบวก12.80 จุด ที่ระดับ1,543.84 จุด มูลค่าการซื้อขาย53,834.11 ล้านบาท สร้างความประหลาดใจให้กับนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยช่วงบ่าย กลับพลิกมาอยู่ในแดนบวก  



+++รายงานข่าวจากนักค้าเงินแจ้งว่า ค่าเงินบาท เปิดตลาดเช้าที่ระดับ 32.60 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐแต่หลังจากที่กนง.ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง ส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงมากสุดแตะที่ระดับ 32.83- 32.86 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐซึ่งถือเป็นการอ่อนค่ามากสุดในรอบ 2 เดือน



+++นายเมธี สุภาพงษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธปท.เปิดเผยว่า  ไม่ได้เกิดจากแรงกดดันจากที่ประเทศข้างเคียงในภูมิภาคปรับลดดอกเบี้ยลง แต่เป็นผลมาจากข้อมูลเศรษฐกิจของแต่ละประเทศที่มีความแตกต่างกันไปและต่างก็มีเหตุผลของตัวเองในการปรับลดดอกเบี้ย ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยของไทยถือว่าอยู่ในระดับที่เกือบต่ำสุดในภูมิภาคเป็นรองเพียงแค่สิงคโปร์ คณะกรรมการ กนง. ได้หารือถึงภาวะเศรษฐกิจโดยรวม การใช้จ่ายของภาครัฐและภาคเอกชนในเดือนม.ค.และก.พ.2558 ที่อ่อนแรงกว่าที่คาด ทำให้แรงส่งทั้งปีชะลอตัวลง ซึ่งจากสัญญาณนี้ทำให้ ธปท.เตรียมจะปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทย และการส่งออกของไทยในปี 2558 ใหม่อีกครั้งในวันที่ 20 มี.ค.นี้ จากปัจจุบันที่คาดว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะโตได้ 4% ส่วนการส่งออกในปี58คาดว่าจะโตได้ร้อยละ 1



+++นายสุนชัย คำนูณเศรษฐ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าภายหลังศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้กฟผ.จ่ายค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้ฟ้องร้องคดีโรงไฟฟ้าแม่เมาะ 123ราย และให้ชำระดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของเงินต้นโดยให้ กฟผ. ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน  กฟผ. ได้เร่งดำเนินการให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาล โดยขอให้สำนักงานศาลปกครองเชียงใหม่คำนวณค่าสินไหมทดแทนพร้อมดอกเบี้ย เนื่องจากผู้ฟ้องคดีแต่ละรายได้รับค่าสินไหมทดแทนแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ได้เข้ามาอาศัยในพื้นที่ และจะสามารถจ่ายเงินได้ในวันที่13 มี.ค.  ซึ่งเร็วกว่า 60 วันตามคำสั่งของศาล รวมเป็นเงินทั้งสิ้น49.43 ล้านบาท โดย กฟผ. จะนำแคชเชียร์เช็คไปวางต่อสำนักงานศาลปกครองเชียงใหม่ในวันที่ 13 มี.ค. จากนั้นสำนักงานศาลปกครองเชียงใหม่จะแจ้งให้ผู้ฟ้องคดีมารับค่าสินไหมทดแทนต่อไป



+++สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ศาลฎีกาอิตาลีมีคำตัดสินยกฟ้อง นายซิลวีโอ แบร์ลุสโกนี อดีตนายกรัฐมนตรีอิตาลีในคดีซื้อบริการทางเพศโสเภณีเด็ก  ถือเป็นยุติคดีที่มีการกล่าวหาว่า นายแบร์ลุสโกนีจัดปาร์ตี้เซ็กที่คฤหาสน์ในเมืองมิลาน ขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอิตาลี ซึ่งนายแบร์ลุสโกนี ได้ปฏิเสธมาตลอดว่า เขาไม่เคยซื้อบริการทางเพศนักเต้นระบำ วัย 17 ปี ศาลอุทธรณ์ ยอมรับว่า นายแบร์ลุสโกนีไม่ได้ใช้อำนาจในทางมิชอบ และไม่ได้ทำผิดด้วยการมีเพศสัมพันธ์กับนักเต้นระบำคนดังกล่าว อีกทั้งยังไม่ทราบว่าเธออายุไม่ถึง 18 ปีทั้งนี้ คำตัดสินของศาลครั้งนี้ จะทำให้นายแบร์ลุสโกนี สามารถกลับมาดำเนินกิจกรรมทางการเมืองในพรรคฟอร์ซาอิตาเลียได้อีกครั้ง  อย่างไรก็ตาม นายแบร์ลุสโกนียังพัวพันอีกในหลายคดี



 



 

ข่าวทั้งหมด

X