ธนาคารพัฒนาเอเชีย(เอดีบี) ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงมะนิลา ฟิลิปปินส์ เปิดเผยรายงานเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจเอเชียประจำปีนี้ ว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาส่วนใหญ่ในเอเชียในปีนี้จะชะลอตัวในอัตราต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ ระบุว่า การสู้รบระหว่างรัสเซียกับยูเครนจะกระทบการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของทุกประเทศในเอเชียอย่างหนัก จากเดิม เศรษฐกิจของเอเชียอ่อนแออยู่ก่อนแล้วหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา
เอดีบี คาดว่า เศรษฐกิจของเอเชีย รวมทั้งจีนและอินเดีย จะเติบโตร้อยละ 5.2 ในปีนี้ ลดลงเล็กน้อยจากตัวเลขคาดการณ์เดิม ร้อยละ 5.3 ในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว นับว่าลดลงมาก เมื่อเทียบกับอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของเอเชียร้อยละ 6.9 ในปีที่แล้ว เอดีบีคาดว่า เศรษฐกิจเอเชียจะเติบโตร้อยละ 5.3 ในปี 2566
สำหรับปัจจัยลบอื่นๆที่กระทบการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของเอเชียในปีนี้ เช่น สินค้าโภคภัณฑ์มีราคาสูงขึ้น การที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 เมื่อวันที่ 17 มีนาคม ซึ่งเป็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 4 ปี จะกระทบเสถียรภาพของสถาบันการเงิน และการระบาดระลอกใหม่ของไวรัสกลายพันธุ์ใหม่ในเอเชีย
เอดีบี คาดว่า เศรษฐกิจจีนจะเติบโตร้อยละ 5.0 ในปีนี้ ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ในเดือนธันวาคมปีที่แล้วและต่ำกว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจร้อยละ 8.1 ในปี 2564 ระบุว่า การระบาดใหญ่ระลอกใหม่ของโรคโควิด-19 ในนครเซี่ยงไฮ้กระทบการประกอบธุรกิจของเอกชนและกระทบการใช้จ่ายของผู้บริโภค
เอดีบี คาดว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของเอเชียตะวันออก และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปีนี้จะอยู่ในอัตราร้อยละ 4.7 และร้อยละ 4.9 ตามลำดับ ลดลงจากตัวเลขคาดการณ์เดิมคือ ร้อยละ 5.0 และร้อยละ 5.1
นอกจากนั้น การที่สินค้าโภคภัณฑ์มีราคาแพงเกินคาด ทำให้เอดีบี ปรับเพิ่มตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของเอเชียมาอยู่ที่ร้อยละ 3.7 ในปีนี้ จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ร้อยละ 2.7 ก่อนจะลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 3.1 ในปี 2566
#เอดีบี
#เศรษฐกิจเอเชีย
#วิกฤติยูเครน