การประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ในวันนี้ (5 เม.ย.65) จะหารือ 6 ข้อแก้วิกฤตเศรษฐกิจเพื่อเสนอรัฐบาลพิจารณาดำเนินการต่อไป เมื่อวานนี้ (4 เม.ย.65) นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย แถลงว่า หอการค้าไทยได้หารือกันและมีข้อสรุปว่า อยากให้รัฐบาลเร่งดำเนินการใน 6 ประเด็น ได้แก่
1.เดินหน้าเศรษฐกิจ รัฐควรเร่งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นทั่วประเทศให้เกิน 70% โดยเฉพาะประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป แล้วประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นโดยเร็ว เช่น ประกาศหลังสงกรานต์ หรือในเดือนพฤษภาคม หากเริ่มเดือนกรกฎาคม อาจไม่ทันกับการแข่งขันกับนานาประเทศ เพราะไทยพึ่งพิงรายได้จากภาคท่องเที่ยว ภาคการค้า และภาคการลงทุนกับต่างชาติ การประกาศให้เป็นโรคประจำถิ่นได้เร็วจะช่วยเรียกความเชื่อมั่นกลับมา
2.สงครามรัสเซียกับยูเครนที่อาจยืดเยื้อ กระทบต่อราคาน้ำมัน ต้นทุนวัตถุดิบนำเข้า ส่งผลต่อสินค้าในประเทศราคาแพงขึ้น จึงอยากให้รัฐบาลขยายเวลาโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 และเฟสถัดไปถึงสิ้นปีนี้ หลังจากเฟส 4 สิ้นสุดเดือนเมษายน และเพิ่มสมทบคนละครึ่งต่อคนเป็น 1,500 บาท เพื่อการกระตุ้นกำลังซื้อภายในประเทศต่อเนื่อง ซึ่งเม็ดเงินจากโครงการคนละครึ่งที่ลงสู่ระบบเศรษฐกิจกว่า 6.4 หมื่นล้านบาท เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายและเพิ่มกำลังซื้อให้ประชาชน
3.เรื่องภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ควรขยายเวลาการเก็บเต็มจำนวนออกไปก่อน แล้วค่อยทยอยเก็บเพิ่มขึ้นเป็นขั้นบันได
4.รัฐบาลควรรีบนำเรื่องขยายเพดานหนี้สาธารณะจาก 60% ให้เป็น 70% เพื่อสามารถกู้เงินมากระตุ้นและพยุงเศรษฐกิจได้ เพราะขณะนี้เพดานหนี้ใกล้เต็ม 60% แล้ว อีกทั้งเงินกู้เดิมเหลือประมาณ 7 หมื่นล้านบาท ไม่เพียงพอในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ
5.การปรับขึ้นแรงงานขั้นต่ำ อยากให้เป็นการตัดสินใจร่วมในระดับจังหวัด ในอัตราที่แตกต่างกันไป แทนที่จะประกาศใช้อัตราเดียวกันทั้งประเทศ
6.รัฐควรเร่งลดอุปสรรคจากกฎระเบียบที่ล้าสมัยและเสริมช่องทางการส่งออก
#คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน
#กระตุ้นเศรษฐกิจ
แฟ้มภาพ