ที่ประชุมผู้ถือหุ้น บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) วันนี้มีมติอนุมัติแผนการควบรวมบริษัทระหว่าง DTAC และ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) ด้วยคะแนนเสียง 89.0787% ของผู้ที่มีสิทธิออกเสียง ซึ่งถือว่าไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิออกเสียง ขณะที่มีผู้ถือหุ้นที่ไม่เห็นด้วย 10.9210%
ขณะที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้น TRUE มีมติเป็นเอกฉันท์ 99.3713% อนุมัติการควบบริษัทระหว่าง TRUE กับ DTAC ส่วนผู้ที่ไม่เห็นด้วย 0.6283% ในการควบรวมกิจการจะได้มีการจัดสรรหุ้นในบริษัทใหม่ที่เกิดจากการควบริษัท (บริษัทใหม่) ให้แก่ผู้ถือหุ้นของ DTAC และผู้ถือหุ้น TRUE ในอัตราส่วน 1 หุ้นเดิมใน DTAC ต่อ 6.13444 หุ้นในบริษัทใหม่ และ 1 หุ้นเดิมใน TRUE ต่อ 0.60018 หุ้นในบริษัทใหม่
ด้านที่ประชุมผู้ถือหุ้น DTAC อนุมัติการลดทุนจดทะเบียนจำนวน 8,539,260 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 4,744,161,260 บาท แบ่งเป็น 2,372,080,630 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 2 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 4,735,622,000 บาท โดยการตัดหุ้นที่ยังมิได้นำออกจำหน่ายจำนวน 4,269,630 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 2 บาท
ในส่วน TRUE ผู้ถือหุ้นอนุมัติการลดทุนจดทะเบียนจำนวน 1,840,652 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 133,474,621,856 บาท แบ่งเป็น 33,368,655,464 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 4 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 133,472,781,204 บาท แบ่งเป็น 33,368,195,301 หุ้น มูลค่าทีตราไว้หุ้นละ 4 บาท โดยการตัดหุ้นทียังมิได้นำออกจำหน่าย จำนวน 460,163 หุ้น มูลค่าทีตราไว้หุ้นละ 4 บาท ทั้งนี้ บริษัทใหม่จะมีทุนจดทะเบียนและทุนจดทะเบียนชำระแล้ว จำนวน 138,208,403,204 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 34,552,100,801 หุ้น โดยมีมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 4 บาท
นายชารัด เมห์โรทรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DTAC กล่าวว่า การควบรวมกิจการระหว่าง DTAC และ TRUE จะมีการจัดตั้งบริษัทโทรคมนาคมที่นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และทำให้บริษัทมีขีดความสามารถแข่งขันสูงขึ้น โดยการควบรวมครั้งนี้จะทำให้บริษัทใหม่สามารถลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและนำคลื่นความถี่ของผู้ถือหุ้นทั้งสองฝ่านมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพให้มากที่สุด รวมทั้งจะมีการบริหารเงินลงทุนได้อย่างรวดเร็วขึ้น
เมื่อมีการควบรวมกิจการแล้ว คาดว่าบริษัทใหม่จะมีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดมากกว่า 40% โดยเมื่อรวมกิจการเข้าด้วยกัน หากคิดจากปี 64 ที่เป็นงบเสมือนจะมีรายได้รวม 224,100 ล้านบาท กำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) 9.54 หมื่นล้านบาท และมี EBITDA Margin ที่ระดับ 40% กำไรสุทธิ 7,000 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 3.12% ส่วนสินทรัพย์รวมมีอยู่ 8.09 แสนล้านบาท หนี้สินรวม 6.91 แสนล้านบาท และส่วนผู้ถือหุ้น 1.18 แสนล้านบาท
ส่วนผู้ถือหุ้นที่ลงมติคัดค้านการควบรวมกิจการในวันนี้ บริษัทจะต้องรับซื้อในภายหลังจากการทำเทนเดอร์ฯครั้งแรก ในราคาปิดของ TRUE และ DTAC วันที่ 1 เม.ย.65 ซึ่งเป็นวันซื้อขายครั้งสุดท้ายก่อนเริ่มกระบวนการควบรวมกิจการ โดย TRUE จะรับซื้อหุ้นละ 5.15 บาท ส่วน DTAC หุ้นละ 50.50 บาท
#ควบรวมกิจการ
#True
#DTAC