นครเซี่ยงไฮ้ ศูนย์กลางการเงินและการผลิตอุตสาหกรรมของประเทศจีน ซึ่งมีประชากร 26 ล้านคน พบการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างรุนแรงในระยะนี้ มีผู้ป่วยใหม่ 5,982 คนในรอบ 24 ชั่วโมง เพิ่มจากเดิม 3 เท่า รัฐบาลนครเซี่ยงไฮ้ มีคำสั่งให้เริ่มขยายพื้นที่ล็อกดาวน์จากฝั่งผู่ตงทางตะวันออกของนครเซี่ยงไฮ้มาครอบคลุมพื้นที่ฝั่งผู่ซี ทางตะวันตกของเมือง มีผลตั้งแต่วันนี้(30 มีนาคม 2565) เร็วกว่ากำหนดเดิม 2 วัน ขอให้ประชาชนทางฝั่งตะวันตกของเมืองเซี่ยงไฮ้อยู่บ้านในช่วง 7 วันหลังจากนี้
นครเซี่ยงไฮ้ขอให้ประชาชนทุกคนทำตามมาตรการควบคุมโรค เช่น ไม่รวมกลุ่มกัน และลดการเดินทางในช่วงการล็อกดาวน์ ระบุว่า หลังผ่านพ้นช่วงเวลาการล็อกดาวน์แล้ว ทุกคนสามารถจะกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ พร้อมออกมาตรการบังคับให้ประชาชนไปตรวจโรคโควิด-19 เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด ระบุว่า คนที่ไม่ไปตรวจโรคจะมีความผิดตามกฎหมาย พร้อมขู่จะดำเนินคดีตามกฎหมายสำหรับพ่อค้าที่ฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า
ก่อนหน้านี้ ชาวเซี่ยงไฮ้จำนวนมากแห่ซื้อสินค้า เช่น อาหารและอุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น หน้ากากอนามัย และเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ทำให้แผงขายสินค้าในร้านซูเปอร์มาร์เก็ตหลายแห่งว่างเปล่า ไม่มีสินค้าขาย ก่อนที่การล็อกดาวน์เริ่มมีผลเมื่อวันจันทร์ ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของจีน ได้ตรวจหาเชื้อให้กับประชาชนแล้ว 9.1 ล้านคน รวมทั้งส่งเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นไปทำความสะอาด พ่นยาฆ่าเชื้อโรคสถานที่ต่างๆ เช่น อาคารสำนักงาน สถานที่ที่มีงานก่อสร้าง ตลาดสดและโรงเรียน เพื่อลดการแพร่ระบาด
นักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยจีนแห่งฮ่องกง มหาวิทยาลัยชิงหวา และสถาบันการศึกษาอื่นๆของจีน คาดการณ์เมื่อกลางเดือนมีนาคมว่า การล็อกดาวน์เมืองใหญ่เช่น นครเซี่ยงไฮ้ จะมีผลให้อัตราการเจริญเติบโตผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพีของจีน ลดลงร้อยละ 4 ในปีนี้
ในปัจจุบัน ประเทศจีนมีผู้ป่วยสะสม 147,437 คน เสียชีวิต 4,638 ราย
#โควิด19จีน
#ล็อกดาวน์เซี่ยงไฮ้