ดร.แอนดรูว์ เพกอส นักระบาดวิทยาจากวิทยาลัยสาธารณสุขจอห์นส์ ฮอปกินส์ บลูมเบิร์ก ในเมืองบัลติมอร์ สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ไวรัส BA.2 เป็นสายพันธุ์ย่อยของไวรัสโอไมครอน หรือที่เรียกว่าไวรัสล่องหน(stealth variant) เนื่องจาก จะพบไวรัสด้วยการตรวจโรคโควิด-19 แบบ PCR หรือแบบละเอียดเท่านั้น และระบาดเร็วกว่าสายพันธุ์โอไมครอนก่อนๆ เป็นสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดทั่วโลกในปัจจุบัน มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในหลายประเทศในทวีปยุโรป เช่น เยอรมนีและอังกฤษและในเอเชีย เช่น ประเทศจีน ทั้งทำให้หลายคนหวั่นเกรงว่าโรคโควิด-19 อาจจะกลับมาระบาดใหญ่ระลอกใหม่ในสหรัฐฯ
ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก(WHO) ชี้ว่า ไวรัส BA.2 คิดเป็นสัดส่วนเกือบร้อยละ 86 ของผู้ป่วยใหม่ทั่วโลกทั้งหมดที่มีการตรวจสายพันธุ์ของเชื้อไวรัส ทั้งเป็นไวรัสที่ระบาดเร็วกว่าไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนก่อนๆเช่น สายพันธุ์ BA.1 และสายพันธุ์ BA.1.1 ทั้งนี้ ผลวิจัยจากอังกฤษและเดนมาร์ก ชี้ว่า ไวรัสโอไมครอนสามารถจะแพร่เชื้อไวรัสซ้ำในกลุ่มผู้ป่วยที่หายจากไวรัสอื่นๆ เช่น เดลตา โดยผู้เชี่ยวชาญของประเทศทั้งสองพบคนไข้หลายหมื่นคนติดไวรัสสายพันธุ์ BA.2 ซ้ำ หลังหายป่วยจากไวรัสโอไมครอนสายพันธุ์ BA.1 แต่ไม่มีหลักฐานชี้ว่า ไวรัสสายพันธุ์ BA.2 ทำให้คนไข้เจ็บป่วยหนักกว่าสายพันธุ์โอไมครอนก่อนๆ
นอกจากนั้น ลักษณะที่คล้ายกับไวรัสโอไมครอนก่อนๆอีกอย่างหนึ่งคือ วัคซีนที่ใช้ในปัจจุบันไม่อาจป้องกันไวรัสสายพันธุ์ BA.2 แต่วัคซีนยังมีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสก่อนๆเช่น อัลฟา หรือสายพันธุ์ดั้งเดิม แต่ข้อจำกัดอีกหนึ่งคือประสิทธิภาพของวัคซีนจะค่อยๆลดลงตามระยะเวลาที่ผ่านไป แต่ข้อมูลจากสำนักงานความมั่นคงด้านสุขภาพของอังกฤษ บ่งชี้ว่า การฉีดวัคซีนบูสเตอร์จะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้สูงขึ้น ทั้งช่วยลดอัตราการเจ็บป่วยถึงขั้นนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลและอัตราการเสียชีวิต
#ประเทศจีน
#ไวรัสโอไมครอน