กระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงเรื่องการกระจายและการสำรองยาต้านไวรัสโควิด-19 ยาฟาวิพิราเวียร์
-นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่า มีการเตรียมและสำรองยาให้สำหรับคนที่มีความจำเป็นจริงๆ เนื่องจาก คนติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่มีอาการ หรือ อาการน้อย ไม่จำเป็นต้องได้รับยาทุกราย ยกเว้น กลุ่มเสี่ยงที่ต้องทานยา คนที่มีอาการเปลี่ยนแปลง ที่สำคัญการฉีดวัคซีนเป็นสิ่งสำคัญ คนที่ฉีดวัคซีนเข็ม 2 เกิน 3 เดือน ควรไปฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น
-นพ.มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ ชี้แจงว่า กลุ่ม 608 คือ กลุ่มที่แพทย์จะพิจารณาให้ยาเป็นพิเศษ เนื่องจาก ภูมิคุ้มกันไม่ดี และอาจทำให้เชื้อลงปอดได้ เป็นกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป มีโรคประจำตัว และ หญิงตั้งครรภ์ โดยเฉพาะคนที่ได้รับวัคซีนไม่ครบโดส การจัดสรรยาแพทย์จะวินิจฉัยตามอาการและจะมีประสิทธิภาพเมื่อได้รับยาภายใน 5 วันแรก
การติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ติดง่าย อาการไม่รุนแรง ทำให้กระทรวงสาธารณสุข ปรับแนวทางในการรักษากลุ่มที่ไม่มีอาการ หรือ มีอาการเล็กน้อย จะรักษาเป็นแบบผู้ป่วยนอก
นพ.ธงชัย และ นพ.มานัส เน้นย้ำว่า ผู้ป่วยติดเชื้อไม่จำเป็นต้องได้รับยาฟาวิพิราเวียร์ทุกราย เนื่องจาก การให้ยาเป็นการพิจารณาตามอาการ ให้สมเหตุสมผล และไม่ควรกินยาฟาวิพิราเวียร์พร้อมกับฟ้าทะลายโจร เนื่องจาก ยาจะมีผลต่อตับ และ ไต สำหรับคนไข้ที่มีปัญหากรดยูริก ต้องพิจารณาเป็นพิเศษด้วย เพื่อป้องกันผลกระทบ ป้องกันการดื้อยา ลดค่าใช้จ่าย ขอให้ผู้ป่วยติดตามสังเกตอาการตัวเองด้วย เนื่องจาก พบว่า ผู้ป่วย 0.5 % มีอาการรุนแรงเพิ่มขึ้นและต้องส่งต่อไปโรงพยาบาล
จากข้อมูล พบว่า ได้มีการสั่งยาฟาวิพิราเวียร์ 26% ฟ้าทะลายโจร 24% และจ่ายยาตามอาการ 52%
นพ.ธงชัย ชี้แจงเรื่องการกระจายยาฟาวิพิราเวียร์ ข้อมูลเมื่อวันที่ 28 มี.ค.65 ได้กระจายยาไปให้โรงพยาบาลทั้งรัฐและเอกชนทั่วประเทศแล้ว 22.8 ล้านเม็ด ปัจจุบันใช้ยาจำนวนมาก เฉลี่ยวันละ 2 ล้านเม็ด สามารถใช้ได้ 10 วัน จึงมีการสำรองยาในสต๊อกส่วนกลางอีก 2.2 ล้านเม็ด ให้กับคนที่สมควรได้รับยา รูปแบบการกระจายยาใช้ระบบออนไลน์ เมื่อโรงพยาบาลใช้ยาจะคีย์ข้อมูลลงไปในระบบ ส่วนกลางจะได้รู้ว่ามียาเหลืออยู่จำนวนเท่าไหร่ จะได้มอบหมายให้องค์การเภสัชกรรม(อภ.)ส่งยาไปเติมให้
ทั้งนี้ เมื่อ 1-2 สัปดาห์ที่แล้ว บางพื้นที่มีผู้ป่วยสูงขึ้นและได้ใช้ยาแต่ไม่ได้คีย์ในข้อมูลเป็นปัจจุบัน มาคีย์ข้อมูลครั้งเดียว ทำให้ ส่วนกลางไม่ทราบว่ามีการใช้ยา แต่ได้มีการส่งสต๊อกไปช่วยเสริมกันได้
-ภญ.ศิริกุล เมธีวีรังสรรค์ รองผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวถึง การกระจายยาฟาวิพิราเวียร์ว่าตั้งแต่ปลายเดือนก.พ.65 ทยอยส่งมอบให้กระทรวงสาธารณสุข 80 ล้านเม็ด อีก 30 ล้านเม็ด ทยอยส่งมอบต่อเนื่องจนถึงช่วงกลางเดือนเม.ย.65 ก็จะครบ 110 ล้านเม็ด นอกจากนี้ เตรียมจัดหายาฟาวิพิราเวียร์กับยาโมลนูพิราเวียร์ รวมกันอีก 75 ล้านเม็ด และจะได้รับการจัดสรรยาโมลนูพิราเวียร์อีก 10 ล้านเม็ด อยู่ระหว่างการเตรียมส่งมอบ หลังจากที่ได้มีการลงนามเรียบร้อยแล้ว
#กระทรวงสาธารณสุข
#ฟาวิพิราเวียร์