ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ ผ่านระบบ Video Conference ไปยังสำนักงานชลประทานที่ 1-17 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมอุตุนิยมวิทยา กรมทรัพยากรน้ำ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักการระบายน้ำ(กทม.) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) เพื่อติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำ แหล่งน้ำ และแม่น้ำสายหลักต่าง ๆ สำหรับเป็นข้อมูลในการบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องและเหมาะสมในแต่ละพื้นที่
ดร.ทวีศักดิ์ ในฐานโฆษกกรมชลประทาน เปิดเผยว่า การคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาที่ระบุว่า ปริมาณฝนในปี 65 นี้ จะคล้ายคลึงปี 52 รวมถึงปรากฏการณ์ลานีญา ซึ่งอาจส่งผลให้มีปริมาณฝนตกมาก ในวันนี้(28 มี.ค. 65) ที่ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ(SWOC) กรมชลประทาน ได้กำชับไปยังโครงการชลประทานทั่วประเทศ เฝ้าระวังและติดตามสภาพอากาศ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพื่อนำมาวิเคราะห์ในการบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องเหมาะสม เน้นย้ำอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำร้อยละ 80 ของความจุอ่างฯ ให้เฝ้าระวังเป็นพิเศษ พร้อมบริหารจัดการน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด รวมทั้งตรวจสอบอาคารชลประทาน ให้พร้อมใช้งานได้อย่างเต็มศักยภาพ หมั่นกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำอย่างสม่ำเสมอ ที่สำคัญให้ทำการประชาสัมพันธ์ถึงสถานการณ์น้ำให้ประชาชนรับรู้รับทราบอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชนให้ได้มากที่สุด
ปัจจุบัน (28 มี.ค.65) อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 48,206 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 63 ของความจุอ่างฯรวมกัน มีน้ำใช้การได้ประมาณ 24,268 ล้าน ลบ.ม. มีการใช้น้ำไปแล้ว 17,906 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 80 ของแผนฯ เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 11,240 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 45 ของความจุอ่างฯ มีน้ำใช้การได้ 4,544 ล้าน ลบ.ม. มีการใช้น้ำไปแล้ว 5,008 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 88 ของแผนฯ ภาพรวมสถานการณ์น้ำอยู่ในเกณฑ์ดี การบริหารจัดการน้ำเป็นไปตามแผนที่กำหนด
#กรมชลประทาน
#รับมือน้ำหลาก