*รมว.กต.อังกฤษ ชี้คนเห็นใจผู้ก่อการร้ายต้องรับผิดชอบต่อเหตุรุนแรงด้วย*

บีบีซี รายงานอ้างนายฟิลิป แฮมมอนด์ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษว่า คนที่เห็นอกเห็นใจผู้ก่อการร้ายจะต้องร่วมรับผิดเท่าๆกันสำหรับเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้น การปาฐกถาที่สถาบันเพื่อการกลาโหมและความมั่นคงศึกษาแห่งกองทัพสหราชอาณาจักรในกรุงลอนดอน นายแฮมมอนด์กล่าวว่า กรณีที่มีการเปิดเผยมือสังหารชาวอังกฤษของกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส)ว่า มีชื่อว่า นายโมฮัมเหม็ด เอ็มวาซี หรือที่เรียกว่า จีฮัด จอห์น เมื่อสัปดาห์ก่อนทำให้บางคนออกมาแก้ต่างแทนผู้ก่อการร้าย และตำหนิหน่วยข่าวกรองว่า ทำงานบกพร่อง แต่ความจริง ความรับผิดในการก่อร้ายร้ายอยู่ที่ตัวผู้ลงมือก่อเหตุ แต่ภาระความรับผิดไม่ยิ่งหย่อนกว่ากันคือ บรรดาคนที่เห็นอกเห็นใจกลุ่มคนเหล่านั้น

ที่ผ่านมา หน่วยข่าวของอังกฤษถูกวิจารณ์ค่อนข้างมากในเรื่องการจัดการกับกรณีนายจีฮัด จอห์น ระบุว่าหน่วยข่าวกรองน่าจะมีประสิทธิภาพในการทำงานมากกว่านี้ในแง่ของการสกัดกั้นไม่ให้นายจีฮัด จอห์น เดินทางไปยังตะวันออกกลาง ก่อนหน้านี้ นายอาซิม กูเรชี ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของ เคจ องค์กรพิทักษ์สิทธิ์สำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายปราบปรามผู้ก่อการร้ายของรัฐบาล กล่าวว่า เอ็มไอ 5 หน่วยข่าวกรองภายในของอังกฤษมีส่วนทำให้เขากลายเป็นคนหัวรุนแรง ระบุว่าการที่เจ้าหน้าที่ข่าวกรองคุกคามเสรีภาพของเขา ไม่ใช่สาเหตุเดียวที่ทำให้เขากลายเป็นมือสังหารของกลุ่มไอเอสในเวลาต่อมา แต่เป็นปัจจัยประการหนึ่งที่ทำให้จีฮัด จอห์น รู้สึกว่า ตนไม่ใช่ส่วนหนึ่งของสังคมอังกฤษอีกต่อไป

สำหรับจีฮัด จอห์น เกิดในคูเวตเมื่อปี 2531และอพยพไปอยู่ในอังกฤษตั้งแต่อายุ 6 ขวบ ต่อมา สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีสาขาคอมพิวเตอร์จากมหาวิทยาลัยเวสต์มินสเตอร์ในกรุงลอนดอนเมื่อปี 2552 ก่อนหน้านี้เขาปรากฏในคลิปสังหารตัวประกันชาวตะวันตกหลายคน รวมถึงการสังหารนายเจมส์ โฟลีย์ นักข่าวอเมริกันเมื่อเดือนสิงหาคมปีก่อน