ผบ.ทบ.ยืนยันมทภ.1ไม่ได้ชี้นำผตห.คดีระเบิด/วัดธรรมกายนัดคืนเงินสหกรณ์16 มี.ค

สรุปข่าว 19.35 น.

+++พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมและผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวว่ากรณี พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ (9 มี.ค.) ว่าจะฟ้องร้องเจ้าหน้าที่ที่ตั้งคำถามนำผู้ต้องหาปาระเบิดหน้าศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เพื่อให้เชื่อมโยงกับตนเอง นั้น พล.ต.พงษ์สวัสดิ์ พรรณจิตต์ ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (พล.1 รอ.) ไม่ได้ชี้นำผู้ต้องหา การแถลงข่าวร่วมกันระหว่างทหารและตำรวจ เป็นเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นเหตุการณ์รุนแรง มีการใช้วัตถุระเบิดจำเป็นต้องใช้กฎหมายพิเศษ ซึ่ง ผบ.พล.1 รอ.ได้ปฏิบัติหน้าที่ภายใต้คำสั่งของแม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ซึ่งอยู่ภายใต้ผู้บัญชาการทหารบก, ซึ่งจากการได้ฟังการแถลงข่าวคิดว่าไม่ได้มีการก้าวล่วงใคร รวมไปถึงนายทหารพระธรรมนูญที่ร่วมการแถลงข่าวด้วยเช่นกัน ขอให้ทุกกลุ่มที่จะก่อเหตุรุนแรงหยุดพฤติกรรมทั้งหมด ตอนนี้ประเทศชาติกำลังมาด้วยดี รออีกไม่นาน ขณะนี้ขั้นตอนต่าง ๆ ก็เป็นไปตามโรดแมปของนายกรัฐมนตรี ซึ่งผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนก็ระบุชัดว่างานด้านการความสงบเรียบร้อย ประชาชนมีความพึงพอใจสูงมาก  เมื่อถามว่า ผู้ต้องหารับสารภาพว่ามีแผนจะก่อเหตุทั่วประเทศถึง 100 จุด ทางฝ่ายความมั่นคงได้ดำเนินการอย่าง พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการสอบสวนข้อเท็จจริงและคนที่เกี่ยวข้องกับขบวนการทั้งหมด ขอคนไทยอย่ากังวล

++++ความคืบหน้าเหตุระเบิด บริเวณหน้าศาลอาญารัชดา พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. เปิดเผยว่า ขั้นตอนต่างๆอยู่ระหว่างดำเนินการสอบสวน จะมาเปิดเผยรายชื่อไม่ได้ เพราะผู้ที่มีรายชื่อจะหลบหนีการจับกุม ขณะนี้ได้ออกหมายจับไปแล้ว 9 ราย ถูกควบคุมตัว 5 ราย ยังเหลืออีก 4 รายที่ยังไม่ได้ควบคุมตัว ในกระบวนการสอบสวนจะต้องเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทหารก่อน จากนั้นจะส่งมอบมาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมอีกครั้ง หากพบว่ามีการพาดพิงใคร หรือ เชื่อมโยงไปหาใคร  ก็จะทำการสืบสวนขยายผล เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ทหารเรื่องพยานบุคคลและพยานเอกสารต่างๆ ซึ่งได้รับการประสานว่ามีเพียงแต่เศษวัตถุระเบิดในที่เกิดเหตุเท่านั้น คาดว่าจะต้องอยู่ในการพิจารณาของผบ.ทบ. อาจจะได้คำตอบที่ชัดเจนภายในวันศุกร์ที่13มี.ค.นี้

+++พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ที่ปรึกษาและโฆษกกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ (กมธ.) แถลงความคืบหน้าการทำงานของคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญว่า ได้พิจารณาทบทวนร่างรัฐธรรมนูญรายมาตราควบคู่กับบันทึกสรุปเจตนารมณ์ว่าเนื้อหารายละเอียดมีความถูกต้อง ครบถ้วน สมบูรณ์หรือไม่ ซึ่งภาพรวมได้มีการพิจารณาเกือบเสร็จสิ้นแล้ว จำนวนมาตราทั้งสิ้น 315 มาตรา พิจารณาแล้ว 64 มาตรา อยู่ในส่วนของสิทธิพลเมือง ในวันที่ 12 มี.ค. จะมีการเชิญให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ชี้แจงเพิ่มเติมถึงข้อคิดเห็นของทั้ง 3 หน่วยงานต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญว่ามีความคิดเห็นอย่างไร ส่วนพรรคเพื่อไทยไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญ  หากมีชี้แจงมาเป็นลายลักษณ์อักษร ก็จะตอบเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งต้องขอเวลาร่างคำชี้แจงก่อน

+++นายเผด็จ มุ่งธัญญา ประธานคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด พร้อมกรรมการสหกรณ์ เดินทางมายื่นหนังสือต่อนายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรฯ โดยนายทรงพล พนาวงศ์ เลขานุการ รมว.เกษตรฯ รับหนังสือแทน เพื่อขอให้รัฐบาลเข้ามาเป็นเจ้าภาพในการดูแลแก้ไขปัญหาสหกรณ์ยูเนี่ยนฯ ในระหว่างที่รอศาลล้มละลายกลาง พิจารณาแผนฟื้นฟูกิจการ เนื่องจากรู้สึกว่าไม่มีความปลอดภัยในชีวิต จากเหตุการณ์ปะทะกับสมาชิกรายย่อย เมื่อวันที่ 9 มี.ค.ในวันที่ 16 มี.ค.นี้ ศาลธัญญบุรี จ.ปทุมธานี จะมีคำตัดสินในคดีที่สหกรณ์ยูเนี่ยนฯ ฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายจากพระธัมมชโย และวัดพระธรรมกาย กรณีให้คืนเงินบริจาคจำนวน 818 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขในเช็คที่นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานกรรมการสหกรณ์ยูเนี่ยนฯ สั่งจ่ายให้กับเจ้าอาวาส และวัดพระธรรมกาย ซึ่งได้รับทราบจากคณะลูกศิษย์ว่าจะระดมเงินผ่านกองทุนของวัดเพื่อนำมาจ่ายคืนให้กับสหกรณ์ มีแนวโน้มจะได้คืนเกือบ 700 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้มีสัญญานที่ดีจากทางคณะลูกศิษย์ ที่จะนำเช็คมาจ่ายคืนให้กับสหกรณ์ฯ ที่ศาลเลย ด้านนายทรงพล กล่าวว่า กระทรวงฯ จะเชิญทุกฝ่ายมาประชุมอีกครั้งในวันศุกร์ที่ 13 มี.ค.นี้ เพื่อมาหารือเรื่องตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างกรรมการและสมาชิก หลังจากศาลมีคำสั่งไม่ว่าทางใด ให้เข้าแผนฟื้นฟูหรือยกฟ้อง กรรมการสหกรณ์ฯ ปัจจุบันชุดที่ 30 ต้องหยุดทำหน้าที่ลงชั่วคราว

+++นาย วิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวหลังจากที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติการแก้ไขพระราชบัญญัติสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ. 2517ว่า เพื่อให้เกิดความเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน เนื่องจาก ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวได้ประกาศใช้มากว่า 40 ปี ซึ่งจะมีการปรับปรุงรายละเอียดที่จะนำส่งรัฐบาลในส่วนของเงินรายได้จากเดิมที่จะนำส่งร้อยละ 28 เหลือเพียงร้อยละ 20 โดยส่วนที่เหลือร้อยละ 8 นั้น จะจัดแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม โดยในส่วนร้อยละ 5 จะจัดตั้งเป็นกองทุนบริหารสลากเพื่อซื้อสลากที่ไม่สามารถขายได้ในระบบ ส่วนรายได้ที่จะจ่ายคืนให้กับประชาชนนั้นยังคงไว้ในอัตราส่วนร้อยละ 60 ตามเดิม นอกจากนี้ยังมีการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในรูปแบบอื่น เช่น ผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส หรือ ตู้ขายสลากอัตโนมัติในอัตรา ใบละ 80 บาท เพื่อป้องกันการขายสลากเกินราคา โดยจะมีการนำสลากส่วนนี้มาจัดสรรในการแบ่งโควต้าใหม่อีกด้วย

+++พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ที่ประชุม ครม. เห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนโรงเรียนเอกชน สายสามัญ และให้เก็บภาษีโรงเรียนกวดวิชา ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถควบคุมค่าเล่าเรียน ไม่ให้ได้รับผลกระทบจากการจัดเก็บภาษีได้ ทั้งนี้ ปกติเมื่อโรงเรียนเอกชนและโรงเรียนกวดวิชาจะมีการปรับขึ้นค่าเล่าเรียน จะต้องทำเรื่องขออนุญาตมายังสำนักงานการศึกษาเอกชน จึงคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา โดยผลประโยชน์น่าจะตกต่อรัฐ  ส่วนการเห็นชอบมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ออกจากระบบของรัฐ ด้วยเหตุผลเรื่องความคล่องตัวในการจัดการการศึกษา โดยไม่ต้องมีการทำความเข้าใจกับนักศึกษา หรือบุคลากรของมหาวิทยาลัย เพราะเป็นความประสงค์ของมหาวิทยาลัยเอง ส่วนการต่อต้านการนำมหาวิทยาลัยของรัฐออกจากระบบ ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีการต่อต้าน

+++นางนันทวัลย์  ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 11 -17 มีนาคมนี้จะมีการประชุมทูตพาณิชย์ทั่วโลก เพื่อประเมินติดตามสถานการณ์ส่งออกของแต่ละตลาดทั่วโลก  รวมทั้งติดตามความคืบหน้าการทำงานภายใต้ยุทธศาสตร์การส่งออกทั้งหมดที่ได้รับมอบหมายจากทั้งจากราคาน้ำมัน ราคาสินค้าเกษตร การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ขณะนี้สถานการณ์ยังไม่ดีตามที่คาดการณ์ในหลายตลาด รวมทั้งอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังมีความผันผวนอย่างมาก ทำให้มีผลกระทบต่อค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น เบื้องต้นยังคงเป้าหมายเดิมทั้งปี 2558 ไว้ที่ร้อยละ 4 นอกจากนี้ จะมีการปรับปรุงการปิดสำนักงานทูตพาณิชย์ เบื้องต้นจะพิจาณาปิดสำนักงานในมิลาน โดยให้มีที่โรม ไว้แห่งเดียวใน อิตาลี และในแคนาดา  จะปิดที่โตรอนโต ให้คงที่ แวนคูเวอร์ รวมทั้งในเวียดนาม จะปิดสำนักงานที่ฮานอย และให้คงโฮจิมินห์ไว้  เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ การส่งออก ที่เปลี่ยนแปลงไป 

+++ดัชนีหุ้นไทย  ทยอยปรับตัวลดลงตั้งแต่ช่วงเช้า โดยลดลงต่ำสุดระหว่างวันถึง 28.71 จุด และปิดที่ 1,531.04 จุด ลดลง 28.67 จุด  มูลค่าการซื้อขาย 46,254.11 ล้านบาท สะท้อนบรรยากาศการลงทุนอยู่ในทิศทางเชิงลบ เนื่องจากนักวิเคราะห์หลายฝ่ายให้ความเห็นว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน( กนง.) อาจมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2% และนายกรัฐมนตรีส่งสัญญาณให้กนง.ชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง จึงทำให้นักลงทุนเทขายทำกำไร ลดความเสี่ยง

+++ดัชนีดาวโจนส์ปล่วงหน้าปรับตัวลดลง วันนี้ และส่งสัญญาณว่าวอลล์สตรีทจะเปิดตลาดร่วงลง ขณะที่นักลงทุนวิตกต่อการที่กรีซจะเสนอแผนปฏิรูปเศรษฐกิจต่อสหภาพยุโรป (EU), ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) พิจารณาในวันพรุ่งนี้ เนื่องจากมีข่าวว่าทางกลุ่มเจ้าหนี้ยังไม่ยอมรับ คณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคจากกรีซจะเปิดการเจรจาเกี่ยวกับมาตรการปฏิรูปเศรษฐกิจในวันพุธนี้ที่กรุงบรัสเซลส์

 +++ดัชนีนิกเกอิปรับตัวขึ้น 48.24 จุด ที่ 18,751.84 จุด

+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดร่วงลง โดยนักลงทุนเกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีน หลังจีนปรับลดเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจปี 2558ลดลง 272.34 ที่ 24,193.04 จุด