ผู้เชี่ยวชาญในสหรัฐฯ มีความกังวลว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐฯจะกลับมารุนแรงอีกครั้ง เนื่องจากการตรวจหาเชื้อที่ลดลง และทำเนียบขาวยอมรับว่ารัฐบาลกำลังขาดเงินทุนสำหรับการจัดซื้อวัคซีน การรักษา และการทดสอบ
ดร.เจนนิเฟอร์ นุซโซ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยบราวน์ กล่าวว่า สถานการณ์ของโรคโควิด-19 ในสหรัฐฯ ยังไม่ได้อยู่ในจุดที่ควรวางใจ แม้ว่าจำนวนผู้ป่วยที่มีอาการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และการเสียชีวิตจะลดลงเป็นเวลาหลายสัปดาห์ ทางการของหลายมลรัฐ ผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรค ทั้งที่จำนวนผู้ป่วยโดยรวมกำลังเพิ่มขึ้นทั้งในสหรัฐฯ และอีกหลายประเทศทั่วโลก
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค ของสหรัฐฯ หรือซีดีซี รายงานว่า กลุ่มผู้ป่วยรายใหม่ที่ติดเชื้อโอไมครอน BA.2 กำลังมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 1 ใน 3 ของประเทศและเป็นจำนวนที่มากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยทั้งหมดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นักวิทยาศาสตร์ ระบุว่า การตรวจหาเชื้อจำนวนมาก คือ หัวใจสำคัญของการทำความเข้าใจเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ซึ่งตลอดกระบวนการศึกษาวิจัย จะพบช่องว่างอยู่เสมอ
ในขั้นต้น การที่จะตรวจเฉพาะคนป่วยเท่านั้น หมายความว่าหากมีอาการเจ็บป่วยแต่ไม่มาเข้ารับการตรวจก็จะไม่มีการนับรวมเข้ามาด้วย
ต่อมาคือ ชุดทดสอบที่มีการวางจำหน่ายอย่างแพร่หลายในปีที่แล้ว แต่มีความต้องการลดลงเมื่อมีไวรัสโอไมครอน อีกหลายคนที่ทำการทดสอบที่บ้านแล้วไม่มีการรายงานผล และไม่ได้เข้าสู่ระบบการรักษา
ขณะที่การรวบรวมสถิติจากการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลยังเป็นตัวบ่งชี้ที่ล่าช้า เนื่องจากในช่วง 1 สัปดาห์หรือมากกว่านั้นเป็นช่วงเวลาที่ผู้ป่วยสามารถแพร่เชื้อให้กับผู้อื่นได้
นอกจากนี้ ยังมีความกังวลว่าหากรัฐบาลกลางยกเลิกประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข จะทำให้โรงพยาบาลไม่มีการรายงานข้อมูลผู้ป่วยเข้าสู่ระบบฐานข้อมูลกลาง ซึ่งกลายเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการทำงานป้องกันภัยคุกคามด้านสุขภาพ
....
#สหรัฐอเมริกา
#โอไมครอน