*นายกฯยืนยันมีมาตรการดูแลสมาชิกสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนฯ ต่ออายุปปช.หารือกันอยู่*

10 มีนาคม 2558, 17:41น.


การเดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่นของนายกรัฐมนตรี ในระหว่างวันที่ 13-14 มีนาคม 2558 พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เป็นการเดินทางไปเยือนเนื่องจากมีการประชุมว่าด้วยการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ ที่เกาะเซนได ซึ่งเป็นการกำหนดวิสัยทัศน์ 2015-2035 ว่าจะมีความร่วมมือในการลดความเสี่ยงอย่างไร โดยตัวเองจะเสนอความร่วมมือระหว่างกัน และวิธีการแก้ไขภัยพิบัติของไทยในอดีตทั้งภัยจากสินามึและภัยจากน้ำท่วมครั้งใหญ่ โดยจะมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยติดตามไปร่วมประชุมเพื่อหารือความร่วมมือด้านต่างๆเพื่อช่วยแก้ไขความเสี่ยงจากภัยพิบัติของประชาชน พร้อมทั้งจะมีการหารือทวิภาคีกับนาย ชินโสะ อาเบะ นายกรัฐมนตรี ญี่ปุ่นด้วย  ส่วนการช่วยเหลือคนไทยผลัดถิ่นนั้น คงสามารถบรรจุได้ปีละ 2000-3000 คน โดยจะต้องมีมาตรการคัดเลือกบุคคลที่เข้ามาให้เป็นบุคคลที่มีประสิทธิภาพก่อน และจะต้องนำเข้าสู่ระบบให้ถูกต้อง แต่คงจะรับหมดทุกคนไม่ได้ เพราะจะก่อให้เกิดปัญหาตามมา รวมทั้งรัฐบาลมีหน้าที่ดูแลคนไทยเป็นสำคัญ มิใช่ดูแลคนไทยพลัดถิ่น ส่วนการช่วยเหลือมุสลิมอุ๋ยกู่ก็มีคณะทำงานอยู่ ซึ่งต้องดูตามกฎระเบียบด้วย



สำหรับ การทะเลาะวิวาทกันของสมาชิกสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น  นายกรัฐมนตรี มองว่า เป็นการกระทำที่รับไม่ได้ เข้าใจว่าประชาชนต่างกลัวสหกรณ์ล้มละลายและมีบางส่วนที่ไม่ไว้ใจคณะกรรมการชุดปัจจุบัน ยืนยันว่ารัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลืออยู่แล้ว คงไม่อยากให้ล้มละลาย แต่ขอให้เป็นไปตามคดีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ ดีเอสไอ ตรวจสอบก่อน



ส่วนการกำหนดอัตราดอกเบี้ยว่า เป็นหน้าที่ของธนาคารแห่งประเทศไทยและคณะกรรมการนโยบายการเงินแห่งชาติหรือกนง. นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กนง. จะพิจารณาอัตราดอกเบี้ยอย่างไร รัฐบาลคงไม่สามารถก้าวก่ายได้



ขณะที่การต่ออายุ ของ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติหรือ ปปช. นายกรัฐมนตรี ขออย่าให้เป็นประเด็นสำคัญ มีการหารือกันอยู่และมีพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแหงชาติรองรับอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังได้สั่งตั้งคณะอนุกรรมาธิการขับเคลื่อนเขตเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อพิจารณาเพิ่มพื้นที่เขตในด้านต่างๆ โดยขณะนี้เล็งพื้นที่ในภูมิภาคตะวันตกเพื่อพัฒนาเป็นอีสท์เทอร์ซีบอดร์ด ซี่งจะต้องหาแหล่งที่เหมาะสมในการจัดตั้งอยู่ พร้อมระบุถึงตลาดข้าวว่าได้รับรายงานว่ามีเงินหมุนเวียนกว่าวันละ 200000-500000บาท นอกจากนี้เตรียมพัฒนาเทคโนโลยีระหว่างไทยและเกาหลีใต้ ให้มีความชัดเจนเพื่อนำมาปรับใช้กับรัฐบาลและประชาชน รวมทั้งสั่งขยายป่าชายเลนให้มีพื้นที่ติดต่อกัน  โดยจะต้องคำนึงถึงเสถียรภาพของและความมั่นคงของประชาชนเป็นสำคัญ พร้อมระบุว่าตัวเองไม่เคยเจรจากับผู้ใดลับหลังเพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มใดๆด้วย ส่วนขณะนี้ขอให้ประชาชนแสดงความเห็นในขอบเขตจำกัด เพราะเป็นสถานการณ์พิเศษ และหากมีรัฐบาลใหม่ก็คงเป็นสิทธิของประชาชนที่จะวิพากษ์ได้เต็มที่ แต่ก็ย้ำว้าไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์อย่างอดีตอีก

ข่าวทั้งหมด

X