ความคืบหน้าปฏิบัติการกู้ภัยของทีมกู้ภัยจีน หลังเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 ของสายการบิน ไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ของจีน เที่ยวบิน เอ็มยู 5735 ซึ่งบรรทุกคนบนเครื่องรวม 132 คน ประสบอุบัติเหตุตกกลางหุบเขาในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ทางตอนใต้ของประเทศเมื่อบ่ายวันจันทร์ (21 มี.ค.)
สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานว่า ทีมกู้ภัยได้หยุดพักการค้นหาชั่วคราว หลังจากฝนตกในวันนี้ (23 มี.ค.) ทำให้หลายฝ่ายหวั่นเกรงว่าอาจจะเกิดเหตุดินสไลด์ เนื่องจาก ดินในหุบเขาที่เกิดเหตุเครื่องบินตกรองรับน้ำฝนในปริมาณที่มาก อาจทำให้เกิดอันตรายแก่ทีมกู้ภัย เบื้องต้น ทีมสอบสวนของจีน ยังไม่ทราบสาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุเครื่องบินตก ขณะเดินทางจากเมืองคุนหมิง มณฑลยูนนาน มุ่งหน้าไปที่เมืองกวางเจา มณฑลกวางตุ้ง
ด้านนายจู เต๋า ผู้อำนวยการฝ่ายความปลอดภัยด้านการบินพลเรือน ประจำสำนักงานบริหารการบินพลเรือนของจีน (CAA)เปิดเผยกับบีบีซีว่า ผ่านมา 36 ชั่วโมงนับตั้งแต่เครื่องบินตกจนถึงบัดนี้ ทีมกู้ภัยไม่พบผู้รอดชีวิต ทั้งจากข้อมูลที่มีอยู่ในขณะนี้ CAA ยังไม่อาจจะสรุปสาเหตุของอุบัติเหตุอย่างชัดเจน มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่หอควบคุมการบินพยายามจะติดต่อกับนักบินในช่วงที่เครื่องบินร่วงจากเพดานการบินปกติอย่างรวดเร็ว แต่ไม่มีเสียงตอบรับจากนักบิน
ก่อนหน้านี้ หน่วยกู้ภัยกว่า 2,000 คนกระจายกำลังค้นหาบริเวณเนินลาดชันของหุบเขาที่เกิดเหตุในเมืองอู๋โจว หลังพบเศษชิ้นส่วนของเครื่องบินแตกกระจาย จากการที่เครื่องบินตกในพื้นที่หุบเขา และเกิดไฟไหม้ป่าในจุดเกิดเหตุ หน่วยกู้ภัยพบเศษชิ้นส่วนของเครื่องบินในสภาพถูกไฟไหม้ สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีของทางการจีนรายงานภาพข่าว แสดงให้เห็นชิ้นส่วนของคนบนเครื่องบินเช่น จดหมาย กระเป๋าหิ้ว กระเป๋าสตางค์และบัตรประชาชนในสภาพไหม้เกรียม
ข่าวนี้สร้างความเศร้าสลดใจให้กับคนจีนทั้งประเทศ ขณะที่ครอบครัวและเพื่อนๆของผู้โดยสารและลูกเรือยังคงติดตามข่าวการค้นหาของหน่วยกู้ภัยอย่างใจจดใจจ่อ ทั้งที่ต้นทางการบินคือ สนามบินเมืองคุนหมิง และที่ปลายทางคือ สนามบินเมืองกวางเจา
ที่ผ่านมา ทางการจีน ยังไม่มีการเปิดเผยรายชื่อคนบนเครื่องบิน หญิงคนหนึ่งให้สัมภาษณ์สื่อท้องถิ่นของจีนว่า พี่สาวและเพื่อนสนิทของเธอเป็นหนึ่งในผู้โดยสารบนเครื่องบินที่ประสบอุบัติเหตุ ในตอนแรก เธอได้จองตั๋วเพื่อเดินทางไปด้วย แต่ต่อมาเธอขอเปลี่ยนเวลาเดินเร็วขึ้น ทำให้เธอรอดชีวิต
#จีน
#ปฏิบัติการกู้ภัย