หลังเกิดเหตุระเบิดที่ศาลอาญา รัชดาภิเษกและมีแผนจะวางระเบิดอีกหลายจุดทั่วประเทศนั้น พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เป็นหน้าที่ของฝ่ายความมั่นคง โดยได้เน้นย้ำให้ระวังการก่อเหตุ ยืนยันว่าหน่วยงานความมั่นคงมีการข่าวคนร้ายอยู่แล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดงานได้ หากพบว่าหลักฐานในการดำเนินคดีเพียงพอต่อการจับกุมผู้ใด ก็จะดำเนินการทันทีกับทุกกลุ่ม เพราะตัวเองไม่ได้อยู่ฝ่ายใด พร้อมได้ขอบคุณการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย
ส่วนการออกมาแถลงข่าวของพล.อ. ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด ก็เป็นสิทธิ์ที่ทำได้ และตัวเองก็คงไม่ตอบโต้สิ่งใด พร้อมขอบคุณพล.อ. ชัยสิทธิ์ที่ให้กำลังใจในการทำงานด้วย ส่วนการพบปะประชาชนที่จังหวัด เชียงใหม่ ได้มีรายงานของผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ว่า มีการสอบถามถึงกฎอัยการศึกและการแสดงความเห็นของประชาชน ซึ่งก็ขอบคุณที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้ชี้แจงถึงสถานการณ์ปัจจุบันให้ประชาชนฟัง พร้อมระบุว่าขณะนี้ประเทศเปรียบเสมือนรถคันใหม่ที่ตัวเองเป็นคนขับ ดังนั้นตัวเองจำเป็นที่จะต้องบังคับไปตามทิศทางของคนขับก่อน ส่วนที่มีรายงานว่ายังมีหมู่บ้านเสื้อแดงนั้น ตัวเองก็มองว่าอาจจะถูกล้างสมองในการฝักใฝ่การเมือง แต่ตัวเองก็ไม่ได้แบ่งแยกฝ่าย เพราะรัฐบาลมีหน้าที่พัฒนาคนไทยทุกคน
ด้านการประชุมแม่น้ำ 5 สายที่ประกอบด้วย คณะรัฐมนตรี คณะรักษาความสงบแห่งชาติ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ สภาปฎิรูปแห่งชาติ คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้จะประชุมกันที่สโมสรทหารบก วิภาวดี ในเวลา13.30น. จะมีการหารือถึงการปราบปรามการทุจริต ส่วนบุคคลที่มีคดีทุจริตอยู่นั้นก็ต้องต่อสู้ตามแนวทางไป ส่วนศูนย์ ร้องทุกข์ในปัจจุบันตัวเองก็มีความพอใจในการรับเรื่องร้องเรียนพร้อมระบุว่าได้มีการแบ่งงานกันเป็น 6 กลุ่ม และกำลังดำเนินการในหลายๆเรื่อง พร้อมระบุว่าในรัฐบาลก่อนนั้นไม่มีศูนย์รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าว
ส่วนการจัดซื้อจัดจ้างโดยอาจใช้บริษัทที่เป็นเครือญาติกันในการจัดซื้อเช่น การจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายของกรมพลศึกษานั้น ตัวเองแนะนำให้ไปยื่นร้องสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน แต่ก็ระบุว่าการจัดซื้อจัดจ้างอาจไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้หมดทุกส่วน เพราะบางส่วนก็เป็นข้อมูลลับของราชการ ตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสาร ที่ระบุว่า เปิดเผยคือโปร่งใส ปกปิดคือข้อยกเว้น ซึ่งจะต้องมีบ้างตามสมควร
สำหรับการต่อต้านของกลุ่มผู้ค้าคลองถมนั้น นายกฯ ระบุว่า เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย เพราะทำให้ประชาชนไม่สามารถใช้ทางเท้าสัญจรได้ จึงต้องดำเนินการแก้ไข รวมทั้งในอดีตได้มีการผ่อนผันมาหลายสิบปีแล้ว เนื่องจากปัจจัยทางการเมือง ซี่งเมื่อถึงขณะนี้ตัวเองไม่ได้มาจากการเลือกตั้งจึงเข้ามาจัดการได้ เพราะไม่มีผลประโยชน์ใดๆ นายกรัฐมนตรีย้ำว่า ได้ตั้งใจทำงานโดยพกสมุดบันทึกติดตัวตลอด และกำลังพยายามแก้ไขปัญหาในหลายเรื่อง ทั้งเรื่องพลังงาน แก้ไขปัญหากรมการบินพลเรือน ซึ่งรัฐบาลได้คิดวางแผนล่วงหน้าอยู่ตลอดเพื่อพัฒนาประเทศด้วย