สหรัฐฯประกาศข้อตกลงกับสหราชอาณาจักร ในการยุติการเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมที่กำหนดโดยอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และเป็นความพยายามครั้งล่าสุดของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในการยุติข้อพิพาททางการค้ากับประเทศพันธมิตร
นายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน แห่งสหราชอาณาจักร ทวีตข้อความว่า เป็นข่าวที่น่าอัศจรรย์และเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งสำหรับอุตสาหกรรมเหล็กและอะลูมิเนียม
นางจีนา ไรมอนโด รัฐมนตรีพาณิชย์สหราชอาณาจักร ระบุในถ้อยแถลงว่า การยกเลิกมาตรการภาษี ทำให้สหราชอาณาจักรสามารถเปิดตลาดในสหรัฐฯได้อีกครั้ง และทำให้ช่องว่างระหว่างอุปสงค์และอุปทานในตลาดสหรัฐฯ ลดลง
ในปี 2561 อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ เรียกเก็บภาษีเหล็กร้อยละ 25 และอะลูมิเนียมร้อยละ 10 จากสหราชอาณาจักรและประเทศอื่นๆ เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ และอ้างถึงความกังวลด้านความมั่นคงแห่งชาติ จากนั้นในรัฐบาลของประธานาธิบดีไบเดน เขาเริ่มกลับมาเจรจาเพื่อทบทวนข้อตกลงกับประเทศต่าง ๆ โดยในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว (2564) บรรลุข้อตกลงเพื่อยุติการเก็บภาษีในสหภาพยุโรป และในต้นเดือนกุมภาพันธ์ (2565) ก็บรรลุข้อตกลงกับญี่ปุ่น
เมื่อเดือนมกราคม (2565) ผู้แทนจากสหรัฐฯและสหราชอาณาจักร เริ่มการเจรจาเพื่อยุติข้อพิพาท โดยสหราชอาณาจักรจะยกเลิกภาษีตอบโต้ซึ่งกำหนดขึ้นสำหรับสินค้านำเข้าจากอเมริกา และจะมีการตรวจสอบบริษัทเหล็กทุกแห่งที่มีเจ้าของเป็นนิติบุคคลจีนในสหราชอาณาจักร เพื่อประเมินอิทธิพลของรัฐบาลจีนต่อการดำเนินงาน และจะมีการแบ่งปันรายงานกับสหรัฐฯ ด้วย
...
#สหรัฐอเมริกา
#สหราชอาณาจักร