สถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน (ซีซีทีวี) รายงานว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งสั่งการและกำชับให้หน่วยงานทุกแห่งที่เกี่ยวข้อง ระดมสรรพกำลังทั้งหมดที่มีอยู่ลงพื้นที่กลางหุบเขาของเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ทางตอนใต้ของประเทศซึ่งเป็นจุดตกของเครื่องบินโดยสาร สายการบินไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ส เที่ยวบินโดยสาร เอ็มยู 5735 ใช้เครื่องบินโบอิ้ง 737-800และขอให้สอบสวนหาสาเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนี้ ด้วยความโปร่งใสและรวดเร็วที่สุด
เครื่องบินลำดังกล่าวผ่านการใช้งานมาเพียง 6 ปีเท่านั้น อยู่ระหว่างเดินทางจากเมืองคุนหมิง เมืองเอกของมณฑลยูนนาน ที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ มุ่งหน้าสู่เมืองกว่างโจว เมืองเอกของมณฑลกวางตุ้ง ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของจีน พร้อมคนบนเครื่อง 132 คน แบ่งเป็นผู้โดยสาร 123 คน และลูกเรือ 9 คน
ล่าสุด ทางสำนักงานการบินพลเรือนของจีน (CAAC) ออกมายืนยันการตก โดยเครื่องบินได้ตกลงบริเวณหุบเขาและเกิดเหตุเพลิงไหม้เป็นบริเวณกว้าง ทั้งนี้ มียืนยันการเสียชีวิตของผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมด และได้ส่งคณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุและอุบัติการณ์ของอากาศยานเข้าพื้นที่แล้ว
ข้อมูลจากเว็บไซต์ติดตามเที่ยวบิน พบว่า เครื่องบินลำนี้อยู่ๆ ก็สูญเสียเพดานบินแบบปัจจุบันทันด่วน ก่อนดิ่งหัวพุ่งตกกระแทกภูเขา หลังเดินทางไปได้เกินครึ่งทาง
สายการบินไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ส ตั้งคณะทำงานพิเศษ 9 ชุด ส่งเจ้าหน้าที่ไปยังจุดที่เกิดเครื่องบินตก และเปิดฮอทไลน์เพื่ออำนวยความสะดวกให้ครอบครัวผู้โดยสารบนเครื่อง
อุตสาหกรรมการบินพาณิชย์ของจีนพัฒนาขึ้นอย่างมากในรอบทศวรรษ และได้รับการรับประกันความปลอดภัยการบินตามมาตรฐานโลก
เหตุการณ์เครื่องบินตกครั้งล่าสุดอาจส่งผลกระทบต่อบริษัทโบอิ้ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้เครื่องบินโบอิ้ง 737 Max ถูกระงับการขึ้นบินทั่วโลก หลังเกิดเหตุการณ์เครื่องบินโบอิ้งรุ่นดังกล่าวของสายการบินเอธิโอเปียนแอร์ไลน์ตกเมื่อวันที่ 10 มี.ค.2562 ทำให้ผู้โดยสารเสียชีวิตทั้งหมด 157 ราย
จีนมีประวัติด้านความปลอดภัยของเครื่องบินพลเรือนในระดับดี เพราะอุบัติเหตุเครื่องบินตกครั้งใหญ่ในจีนครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคม 2553 เมื่อเครื่องบินโดยสารจากเมืองฮาร์บินตกในเมืองอี้ชุน มีผู้เสียชีวิต 42 ราย
#เครื่องบินจีนตก
Reuters