นพ.ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก เปิดเผยว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกในขณะนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของจำนวนผู้ติดเชื้อที่แท้จริง ซึ่งเขาเห็นว่าเป็นการส่งสัญญาณถึงปัญหาที่ใหญ่กว่านั้นมาก เพราะหลังจากที่ทั่วโลกเริ่มมีผู้ติดเชื้อลดลงเป็นเวลานานกว่าหนึ่งเดือน หลายประเทศเริ่มผ่อนคลายมาตรการทางสาธารณสุขและสังคม กับให้ลดการตรวจหาเชื้อ แต่เมื่อมีโควิดโอไมครอน และโอไมครอนสายพันธุ์ย่อยที่แพร่ระบาดได้สูงหลายประเทศก็ยังคงไม่เพิ่มการตรวจหาเชื้อ ทั้งยังเพิ่มการผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ ตัวเลขที่มีการรายงานเข้าระบบมายังองค์การอนามัยโลกจึงเป็นตัวเลขเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น
โดยในสัปดาห์ก่อน (7 - 13 มี.ค.) ทั่วโลกมีผู้ป่วยรายใหม่ 11 ล้านคนและมีผู้เสียชีวิตจำนวน 43,000 ราย ภูมิภาคที่มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นมากคือแปซิฟิกตะวันตก ซึ่งรวมถึงเกาหลีใต้และจีนมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นร้อยละ 25 และเสียชีวิตร้อยละ 27
แอฟริกามีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 และผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 14
และยุโรปมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นร้อยละ 2 แต่อัตราการเสียชีวิตคงที่ ผู้เชี่ยวชาญจำนวนหนึ่งได้แสดงความกังวลว่ายุโรปกำลังเผชิญกับการระบาดของโควิดสายพันธุ์ย่อย BA.2 โดยมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมในออสเตรีย เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ และสหราชอาณาจักร โดยในระยะเวลาอันใกล้นี้สหรัฐอเมริกาอาจเผชิญกับสถานการณ์ในลักษณะเดียวกัน
ดร.อันโตเนลลา วิโอลา ศาสตราจารย์ด้านภูมิคุ้มกันวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยปาดัวของอิตาลี กล่าวแสดงความเห็นด้วยกับการผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ ว่าเป็นเรื่องที่สามารถเข้าใจได้ เพราะมีสถานการณ์ของโรคระบาดเกิดขึ้นมานานกว่า 2 ปีแล้ว แต่ควรตระหนักว่าโควิด-19 ยังมีอยู่ ดังนั้นมาตรการพื้นฐานที่เกี่ยวกับการเฝ้าระวัง การสวมหน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด มีการติดตามผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง และการดูแลรักษาจึงยังเป็นมาตรการที่สำคัญ
...
#องค์การอนามัยโลก
#โควิดโอไมครอน