ผู้นำอังกฤษเยือนตะวันออกกลาง ขอให้ซาอุฯและยูเออี ผลิตน้ำมันดิบมากขึ้น

          นายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ ไปเยือนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) และซาอุดีอาระเบียในวันนี้ เพื่อขอให้สมาชิกผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่ทั้งสองของกลุ่มผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ผลิตน้ำมันดิบมากขึ้น เพื่อช่วยให้ราคาพลังงานลดลง ที่ผ่านมา ราคาพลังงานเพิ่มขึ้นนับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครน

          ในการเยือนยูเออี นายจอห์นสัน พบปะกับชีค โมฮัมเหม็ด บิน ซาเยด อัล-นาห์ยาน มกุฎราชกุมารแห่งอาบูดาบี ซึ่งมีฐานะเป็นเจ้าผู้ปกครองยูเออีในกรุงอาบูดาบีในช่วงเช้าวันนี้ จากนั้นนายจอห์นสันจะเดินทางด้วยเครื่องบินมุ่งหน้ายังกรุงริยาดห์ เพื่อพบปะกับเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย

           สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า สงครามในยูเครน และการคว่ำบาตรรัสเซียโดยประชาคมระหว่างประเทศ นำโดยสหรัฐฯและกลุ่มสหภาพยุโรป ทำให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกขยับขึ้นอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งสูงกว่า 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ทั้งเพิ่มแรงกดดันให้กลุ่มโอเปกต้องทำการผลิตน้ำมันดิบมากขึ้น เพื่อทำให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมีเสถียรภาพมากขึ้น

          ก่อนหน้านี้ นายจอห์นสัน เปิดเผยว่า การเดินทางไปยังตะวันออกกลางครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามเพื่อให้ยุโรปลดการพึ่งพลังงานจากรัสเซีย อีกทั้งจะทำให้รัฐบาลประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียได้รับผลกระทบจากมาตรการของยุโรปเรื่องการห้ามสั่งซื้อน้ำมันรัสเซีย ขณะเดียวกัน อังกฤษ มีแผนจะค่อยๆปรับลดการนำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซียภายในปลายปีนี้

          ทั้งซาอุดีอาระเบียและยูเออี ผลิตน้ำมันดิบกว่า 13 ล้านบาร์เรลต่อวัน และเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศของกลุ่มโอเปกที่มีศักยภาพในการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบในปริมาณมากๆ

#อังกฤษ

#โอเปก

#คว่ำบาตรรัสเซีย