ผลวิจัยฮ่องกง ชี้ว่าไวรัสโอไมครอนที่ตกค้างบนพื้นผิววัตถุ แพร่เชื้อไวรัสนานกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิม

          นายลีโอ พูน นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮ่องกง เปิดเผยผลการวิจัยในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ และพิมพ์เผยแพร่ผลการวิจัยในเว็บไซต์ไบโออาร์ไคฟ (bioRxiv) คลังเอกสารวิชาการออนไลน์ด้านชีววิทยาว่า ละอองฝอยปนเปื้อนเชื้อไวรัสโอไมครอนที่ตกค้างอยู่บนพื้นผิวของวัตถุต่างๆ สามารถแพร่โรคโควิด-19 ได้นานกว่า สายพันธุ์ซาร์ส-โควี-2 (SARS-CoV-2)ดั้งเดิม

          ทั้งนี้ ทีมนักวิจัยได้ศึกษาเรื่องนี้โดยการนำละอองฝอยที่มีเชื้อไวรัสปนเปื้อน ระหว่างไวรัสสายพันธุ์ดั้งเดิมกับไวรัสโอไมครอน BA.1 ทีมวิจัย พบว่า บนพื้นผิวของวัตถุที่เรียบ เช่น แก้ว เหล็กสแตนเลส และแผ่นพลาสติก ไวรัสโอไมครอนที่ตกค้างอยู่บนพื้นผิวของวัตถุสามารถจะแพร่เชื้อไวรัสได้นาน 5 วัน ขณะที่ไวรัสสายพันธุ์ดั้งเดิมที่ตกค้างอยู่บนวัตถุพื้นเรียบ เช่น เหล็กสแตนเลส และแผ่นพลาสติก แพร่เชื้อไวรัสได้นาน 4 วัน และกรณีตกค้างอยู่บนพื้นผิวของแก้ว สามารถแพร่เชื้อไวรัสได้นาน 7 วัน

          ส่วนกรณีละอองฝอยปนเชื้อไวรัสโอไมครอนตกค้างอยู่บนกระดาษชำระ และกระดาษสำหรับใช้พิมพ์เอกสาร ทีมวิจัยพบว่า เชื้อไวรัสสายพันธุ์ดั้งเดิมแพร่เชื้อได้ไม่เกิน 30 นาที ขณะที่ไวรัสโอไมครอน แพร่เชื้อได้ไม่เกินหนึ่งชั่วโมง

          สำหรับการแพร่เชื้อไวรัส ซาร์ส-โควี-2 ส่วนใหญ่แพร่ระบาดจากละอองฝอยปนเปื้อนที่ลอยอยู่ในอากาศ เข้าสู่จมูกหรือปากของผู้ป่วย แต่การติดเชื้อจากการสัมผัสพื้นผิวที่ใช้ร่วมกัน แม้ว่ามีโอกาสแพร่เชื้อได้น้อยกว่าระบบทางเดินหายใจ แต่ผลการศึกษาเรื่องนี้ย้ำให้เห็นความสำคัญของการทำความสะอาดมือ และพื้นผิวของวัตถุที่ใช้ร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ เช่น ปุ่มลิฟท์ ลูกบิดประตู หรือราวจับในสถานที่ต่างๆเช่น รถไฟใต้ดิน เพื่อลดการแพร่ระบาด

#ฮ่องกง

#ไวรัสโอไมครอน