WHO คาดมีสายพันธุ์ใหม่-สายพันธุ์ลูกผสม ยังไม่ควรลดจำนวนการตรวจหาเชื้อโควิด

          WHO คาดมีสายพันธุ์ใหม่-สายพันธุ์ลูกผสม ในช่วงนี้ อย่าลดจำนวนการตรวจ ATK RT-PCR หรือ การถอดรหัสพันธุกรรม Center for Medical Genomics รายงานว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ย้ำเตือนและขอความร่วมมือจากทุกประเทศทั่วโลก

1. อย่าลดจำนวนการตรวจ (ATK, RT-PCR, และการถอดรหัสพันธุกรรมไวรัสทั้งจีโนม) ในช่วงนี้ เพราะจะทำให้การวางแผนในการตรวจติดตาม ป้องกัน และการรักษาโควิด-19 กลายพันธุ์ล่าช้าไม่ทันต่อเหตุการณ์

2. ดูแลผู้สูงอายุและกลุ่มเสี่ยง (608) ให้ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งมีวัคซีนพอเพียง WHO ได้ตั้งเป้าการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในทุกประเทศให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 70 ของทุกกลุ่มประชากร

3. WHO คาดว่า จะมีสายพันธุ์ใหม่และสายพันธุ์ลูกผสม(recombinant variants) เกิดขึ้น แต่ด้วยภูมิคุ้มกันที่เรามีทั้งจากวัคซีนและจากการติดเชื้อตามธรรมชาติจะช่วยลดผลกระทบได้

4. การกำจัดไวรัสให้หมดไปไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่าย ที่สำเร็จมาแล้วมีเพียงโรคฝีดาษ (Smallpox) หรือไข้ทรพิษ อันเกิดจากเชื้อไวรัสวาริโอลา (Variola Virus) ที่ติดต่อกันได้ผ่านการอยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วย หรือการหายใจเอาเชื้อไวรัสที่อยู่ในละอองเสมหะ น้ำมูก หรือน้ำลายของผู้ป่วย และการกำจัดไวรัสอีกตัวที่ใกล้จะสำเร็จคือโปลิโอ (Polio หรือ Poliomyelitis หรือ Infantile paralysis) หรือบางครั้งเรียกว่า "โรคไขสันหลังอักเสบ" เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสโปลิโอ

5. คำว่าโรคประจำถิ่น (Endemic) ทาง WHO แถลงว่าไม่ได้หมายความว่าตัวเชื้อก่อโรคจะต้องยุติการระบาดหรือสูญพันธุ์ไป เช่น ในกรณี เชื้อเอชไอวี (HIV) ชื่อ ไมโครแบคทีเรียม ทูเบอร์คูโลซีส ที่ก่อให้เกิดวัณโรคปอด และเชื้อมาลาเรีย ที่ปัจจุบันถือได้ว่าเป็นโรคประจำถิ่น แต่เชื้อทั้งสามก็ยังเป็นสาเหตุที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตทั่วโลกนับล้านคนในแต่ละปี โดยต้องมีมาตรการควบคุมที่เข้มงวดและต่อเนื่องเพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อเหล่านี้กลับมาระบาดใหญ่ (Pandemic) อีกครั้ง

-กรณีเชื้อเอชไอวี (HIV) ในประเทศไทยที่ก่อให้เกิดโรคเอดส์ เราต้องใช้งบประมาณถึง 3,000 ล้านบาทของทุกปีในการตรวจวินิจฉัย CD4, viral load, และถอดรหัสพันธุกรรมเพื่อดูว่าไวรัสดื้อต่อยาต้านไวรัสแล้วหรือไม่ และสามารถปรับเปลี่ยนยา หากเชื้อดื้อยาได้ทันที รวมทั้งการจัดหายาต้านไวรัส คนต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่ออยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวี เช่น ใช้ถุงยางอนามัยเมื่อมีเพศสัมพันธ์ หรือตรวจกรองเลือดให้ปราศจากเชื้อจุลชีพต่างๆรวมทั้งเอชไอวีก่อนให้กับผู้ป่วยที่ต้องการเลือด

-ดังนั้นในกรณีของไวรัสโคโรนา 2019 ที่ทางภาครัฐจะปรับให้เป็นโรคประจำถิ่นคาดว่าเราจะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหลายอย่างเพื่ออยู่ร่วมกับไวรัสตัวนี้ให้ได้

#WHO

#โควิด19

CR:Center for Medical Genomics