เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และทางการของเขตปกครองตนเองเคอร์ดิสถานในอิรัก เปิดเผยว่า อิหร่านยิงขีปนาวุธโจมตีเมืองเออร์บิลทางตอนเหนือของอิรักในวันนี้ (13 มี.ค.) โดยมีประมาณ 12 ลูกที่ตกในพื้นที่ใกล้เคียงกับสถานกงสุลสหรัฐฯ ทำให้อาคารใกล้เคียงได้รับความเสียหาย ซึ่งสหรัฐฯเห็นว่าเป็นการโจมตีที่อุกอาจต่ออำนาจอธิปไตยของอิรัก
ด้านทางการอิหร่านระบุว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่สื่อของทางการอิหร่านระบุว่า เป็นปฏิบัติการของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน (Islamic Revolution Guard Corps : IRGC) ที่ต้องการแก้แค้นให้กับเจ้าหน้าที่ระดับสูง 2 คนที่เสียชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอลในซีเรียในสัปดาห์ที่แล้ว โดยเป้าหมายการโจมตีของอิหร่านคือฐานทัพลับของอิสราเอล
นายกรัฐมนตรี มุสตาฟา กาดิมี แห่งอิรักร่วมประณามปฏิบัติการของอิหร่านในดินแดนของอิรัก นอกจากนี้ผลการตรวจสอบพบว่า ขีปนาวุธที่โจมตีคือฟาเตห์-110 (Fateh-110) ที่ผลิตโดยอิหร่าน
ทางการเขตปกครองตนเองเคอร์ดิสถานเพิ่มเติมว่า ไม่แน่ชัดว่าเป้าหมายที่แท้จริงคือสถานกงสุลสหรัฐฯ หรือสนามบิน ซึ่งเป็นที่ตั้งของฐานของกองกำลังนานาชาติที่นำโดยสหรัฐฯ แต่ทั้งสถานกงสุลและสนามบินไม่มีความเสียหายใดๆ และเที่ยวบินยังทำการบินตามปกติ
และสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่น Kurdistan24 ซึ่งมีสตูดิโออยู่ไม่ไกลจากสถานกงสุลสหรัฐฯ ได้เผยแพร่ภาพความเสียหายของสตูดิโอที่เกิดจากการโจมตี
เหตุการณ์ในอิรักยังเกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง เมื่อการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่านหยุดชะงัก เนื่องจากรัสเซียยื่นข้อเรียกร้องให้มีการรับประกันว่าการทำการค้าระหว่างรัสเซียกับอิหร่านจะไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรที่ชาติตะวันตกบังคับใช้ต่อรัสเซีย ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องที่สหรัฐและชาติตะวันตกยอมรับไม่ได้ ขณะที่อิหร่านระงับการเจรจาลับเพื่อลดความขัดแย้งกับซาอุดีอาระเบียที่มีอิรักเป็นคนกลาง เพราะไม่พอใจที่ซาอุดีอาระเบียประหารชีวิตนักโทษมากถึง 81 คน รวมถึงชาวชีอะห์กว่า 30 คน
....
#อิรัก
#สหรัฐอเมริกา
#อิหร่าน