'ดร.อนันต์' ยกผลงานวิจัยในฮ่องกง พบว่า สายพันธุ์โอไมครอน อยู่บน สแตนเลส พลาสติก และ แก้ว นานถึง 7 วัน

12 มีนาคม 2565, 14:45น.


          ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ(ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ(สวทช.) เปิดเผยข้อมูลเรื่องโควิด-19 ในเฟซบุ๊ก Anan Jongkaewwattana ระบุว่า ผลการทดลองจากทีมวิจัยในฮ่องกงน่าสนใจ  เปรียบเทียบความเสถียรของไวรัส (ความสามารถที่ไวรัสจะติดเชื้อต่อได้) บนพื้นผิวชนิดต่างๆระหว่างโอไมครอน กับ สายพันธุ์ดั้งเดิม ผลการทดลองชิ้นนี้บอกว่า ไวรัสทั้ง 2 สายพันธุ์จะสูญเสียสภาพการติดเชื้อไประดับประมาณ 10 เท่า เกือบทันทีที่อยู่นอกร่างกายและไปติดอยู่บนพื้นผิวต่างๆ แต่หลังจากนั้นจะเห็นความแตกต่างระหว่างสายพันธุ์โดยโอไมครอนมีแนวโน้มจะอยู่บนพื้นผิวอย่างน้อย 3 ชนิด คือ สแตนเลส พลาสติก และ แก้ว ที่ยาวนานกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิม ดูเหมือนว่าโอไมครอนจะคงสภาพบนพื้นผิวทั้ง 3 ได้นานถึง 7 วัน ในสภาวะความชื้น และ อุณหภูมิที่ทำการทดลองนี้ แต่บนพื้นผิวกระดาษไวรัสเสียสภาพไวกว่า และ อยู่ได้ไม่นานพอๆกัน





         การทดลองนี้ไม่ได้เปรียบเทียบไวรัสในสภาวะอยู่ในอากาศ หรือ aerosol ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่โอไมครอนอาจจะอยู่ในอากาศได้นานกว่าปกติ ซึ่งอาจอธิบายความสามารถในการแพร่กระจายของไวรัสได้ไว และ รวดเร็ว



         ข้อสังเกตคือ การศึกษานี้ใช้ปริมาณของละอองฝอยที่มีขนาด 5 ไมโครลิตร ซึ่งใหญ่กว่าละอองฝอยในธรรมชาติมาก ปริมาณไวรัสที่ใช้ก็ค่อนข้างสูง การสูญเสียสภาพของไวรัสประมาณ 10 เท่าหลังเกาะบนพื้นผิวอาจทำให้ละอองฝอยที่มีขนาดเล็กในสภาวะจริงอาจทำให้ไวรัสที่ติดออกมาลดลงไปจนไม่ไปต่อก็ได้ขึ้นอยู่กับสภาวะของละอองฝอยที่ปล่อยออกมา และ ปริมาณไวรัสที่ออกมาจากผู้ติดเชื้อมักไม่สูงเหมือนที่ทำการทดลอง การใส่หน้ากากอมามัยก็จะช่วยลดปริมาณการปลดปล่อยลงไปได้อีก ปัจจัยทั้งหมดนี้อาจจำเป็นต้องพิจารณาเพื่อประเมินความเสี่ยง การล้างมือบ่อยๆ เป็นเรื่องสำคัญและจำเป็น



https://www.biorxiv.org/content/10.1101/2022.03.09.483703v1



#โอไมครอน



CR:Anan Jongkaewwattana



 

ข่าวทั้งหมด

X