สถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศ ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 พบผู้ป่วยรายใหม่ 24,792 คนผู้ป่วยยืนยันสะสม 913,214 คน หายป่วยแล้ว 721,582 คน และเสียชีวิตสะสม 1,877 ราย
ขณะที่ผลตรวจ ATK กรมควบคุมโรครายงานว่า วันนี้ พบผู้ติดเชื้อเข้าข่ายเพิ่ม 21,626 ราย ลดลงจากวานนี้ และร้อยละของการตรวจพบเชื้ออยู่ที่ 49.11% โดยมีผู้ป่วยอาการหนัก หรือปอดอักเสบจำนวน 1,255 ราย ยังยืนอยู่ในระดับเกินกว่า 1,000ราย/วัน และต้องใส่เครื่องช่วยหายใจจำนวน 415 ราย หากรวมยอดผู้ป่วยใหม่กับผลตรวจ ATK ในวันนี้ ตัวเลขรวมของผู้ติดเชื้อรายใหม่จะอยู่ที่ 46,418 ราย
ส่วนข้อมูลสะสมตั้งแต่ปี 2563 ผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,136,649 ราย หายป่วยแล้ว 2,890,076 คน และเสียชีวิตสะสม 23,575 ราย โดยวันนี้มีผู้เสียชีวิต 63 ราย ขณะที่ผู้ป่วยอาการหนักหรือปอดอักเสบยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ขณะที่ผู้ติดเชื้อรายวันมีทิศทางทรงๆตัว ส่วนผู้เสียชีวิตกราฟเริ่มลดลง หลังวานนี้(10 ม.ค.)พุ่งขึ้นไปทำสถิตินิวไฮที่ 74 คน
สำหรับผู้มารับวัคซีน วันที่ 10 มีนาคม 2565 มีผู้รับการฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 จำนวน 85,859 ราย เข็มที่ 2 จำนวน 21,760 ราย และเข็มที่ 3 จำนวน 110,641 ราย และระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 - 10 มีนาคม 2565 มีผู้รับวัคซีนสะสมทั้งหมด จำนวน 125,589,061 โดส
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 54,187,319 คน
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 49,936,840 คน
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 21,464,902 คน
10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดอันดับ 1.ยังเป็นกรุงเทพมหานครที่วันนี้ตัวเลขยังยืนอยู่ในระดับ 3,171 คน รวมสะสม 130,324 คน รองลงมาเป็นชลบุรี 1,386 คน ยอดสะสม 52,183 คน ในส่วนของจังหวัดที่มียอดผู้ป่วยสะสมตั้งแต่ต้นปีเกิน 50,000 มีด้วยกัน 3 จังหวัดได้แก่ กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ และชลบุรี ขณะที่นครศรีธรรมราชตัวเลขสะสมขยับเข้าใกล้ 30,000 คน แล้ว โดยล่าสุดตัวเลขสะสมอยู่ที่ 29,723 คน
ส่วนรายละเอียดผู้เสียชีวิต 63 รายในวันนี้ เป็นชาย 37 ราย หญิง 26 ราย เป็นคนไทย 61 ราย อเมริกัน 1 ราย และไม่ระบุสัญชาติ 1 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 49 ราย คิดเป็น 78% อายุน้อยกว่า 60 ปี แต่มีโรคเรื้อรัง 11 ราย และไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 3 ราย
สำหรับปัจจัยเสี่ยงยังมาจากโรคมะเร็ง 3 ราย โรคไต 9 ราย ภาวะอ้วน 4 ราย หลอดเลือดสมอง 5 ราย โรคหัวใจ 15 ราย ติดเตียง 9 ราย และเป็นการติดจากคนรู้จัก 25 ราย ติดในครอบครัว 10 ราย อยู่ในพื้นที่ระบาด 6 ราย
และเมื่อแยกตามพื้นที่พบว่าเป็นผู้ที่เสียชีวิตในภาคใต้มากที่สุด 26 คน โดยอยู่ในนครศรีธรรมราช 5 ราย พัทลุง ยะลา สุราษฎร์ธานี 4 ราย สตูล 3 ราย นราธิวาสและภูเก็ต จังหวัดละ 2 ราย พังงาและสงขลาจังหวัดละ 1 ราย รองลงมาเป็นจังหวัดในภาคกลางและตะวันออกรวม 10 ราย จังหวัดปริมณฑลได้แก่ปทุมธานี 3 ราย นครปฐมและสมุทรปราการจังหวัดละ 2 ราย ภาคเหนือรวม 7 ราย และภาคอีสาน 6 ราย ส่วนกทม.วันนี้มีผู้เสียชีวิต 7 ราย ลดลงจากวานนี้ซึ่งอยู่ที่ 12 ราย
ส่วนจำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบที่กำลังรักษาตัวในโรงพยาบาล 10 อันดับแรกกับอัตราการครองเตียง ส่วนใหญ่ยังอยู่ในระดับเขียวอ่อนและเขียวเข้มที่ระดับ 9-47% ยกเว้น 2 จังหวัดที่อัตราการครองเตียงอยู่ในระดับสีเหลืองคือ ภูเก็ต 59.80% และชลบุรี 50.20% สำหรับกรุงเทพมหานครแม้จำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบจะมากเป็นอันดับหนึ่งคือจำนวน 182 ราย แต่อัตราการครองเตียงยังอยู่ที่ระดับ 30.90%
สำหรับสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั่วโลก เมื่อเปรียบเทียบข้อมูล 7 วันล่าสุด พบว่าเกาหลีใต้ยังมีผู้ติดเชื้อสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งที่ระดับ 1,848,162 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 7 วันอยู่ที่ 1,252 ราย รองลงมาเป็นเยอรมนี 1,261,089 ราย และอันดับ 3 เป็นเวียดนามที่ยอดยังไม่ลดลง ตัวเลข 7 วันย้อนหลังอยู่ที่ 1,068,883 ราย
#โควิด19