นายกรัฐมนตรี ระบุยังมีการเฝ้าระวังและจับตากลุ่มผู้ต่องสงสัยก่อเหตุรุนแรงทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง

จากเหตุคนร้ายขว้างระเบิดที่ด้านหน้าศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ระบุว่า ผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มที่เคลื่อนไหวทางการเมือง ที่ต้องการประกาศว่าเขายังมีบทบาทอยู่ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จับคนร้ายได้แล้ว และกำลังสืบสวนเพื่อหาผู้บงการก่อเหตุ ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหาให้การซัดทอดว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มเสรีไทย ของนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทยนั้น พบว่านายจารุพงศ์ยังหลบซ่อนอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน และเจ้าหน้าที่กำลังประสานติดตามตัวอยู่ โดยยืนยันว่า ที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ก็มีการเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆอยู่ตลอด จึงทำให้สามารถจับคนร้ายได้รวดเร็ว รวมถึงการใช้กฎอัยการศึกที่ทำให้สามารถจับกุมได้โดยไม่ต้องขอหมายศาล โดยเฉพาะที่มีข่าวว่าจะมีการก่อเหตุในวันที่ 15 มีนาคม ทางเจ้าหน้าที่ยังเฝ้าติดตามอย่างต่อเนื่อง และขอให้ประชาชนช่วยเฝ้าระวังด้วย ส่วนจะมีการบังคับใช้กฎอัยการศึกเข้มงวดมากขึ้นหรือไม่นั้น  นายกรัฐมนตรี ระบุว่า กฎอัยการศึกมีกว่า 20 มาตรา แต่ที่ผ่านมาใช้เพียง 2 อย่าง คือ ขอตรวจค้นคนหรือสถานที่ต้องสงสัยโดยไม่ต้องขอหมายศาล แต่จะเพิ่มความเข้มขึ้นขึ้นหรือไม่ยังไม่สามารถตอบได้ ซึ่งขึ้นอยู่ที่จิตสำนึกมากกว่า รวมถึงสื่อมวลชนก็ไม่ควรนำเสนอข่าวที่สร้างความตื่นตระหนกให้กับสังคม  ซึ่งส่วนตัวมีจิตสำนึก จึงเข้ามาแก้ไขปัญหา  ไม่เช่นนั้นประเทศก็จะเสียหายมากกว่านี้ แต่ในทางกลับกัน รัฐบาลกลับถูกกล่าวหาว่ารัฐบาลปิดกั้น คุมขังประชาชนที่เห็นต่างทางการเมือง 3,000-4,000 คน ซึ่งข้อเท็จจริงได้เรียกมารายงานตัวเพียงแค่ 300-400 คน และก็ปล่อยตัวไปแล้ว นอกจากคนที่ทำผิดกฎหมายอาญาจึงต้องมีการดำเนินตามขั้นตอนกระบวนการยุติธรรมต่อไป

ส่วนเรื่องการร่างรัฐธรรมนูญซึ่งขั้นตอนการร่างแล้วเสร็จ แต่หากไม่สามารถแก้ปัญหาความขัดแย้งได้นั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ก็คงไม่ต้องเลือกตั้ง แต่ยืนยันว่าตัวเองจะไม่ยอมให้คนเลวที่เคลื่อนไหวทางการเมืองออกมาก่อความวุ่นวาย โดยจะมีเตรียมการเฝ้าระวังตลอดเวลา ดังนั้นกระแสข่าวที่จะมีการเคลื่อนไหวใหญ่ในวันที่ 15 มีนาคมจึงไม่มีความกังวล เพราะฝ่ายความมั่นคงดูแลอยู่แล้ว

นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า จะไม่เลื่อนเดินทางไปญี่ปุ่นในวันที่ 13-14 มี.ค.นี้ โดยได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านความมั่นคงดูแลสถานการณ์ในช่วงนี้

ส่วนในเรื่องการออกกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปในเรื่องอัตราภาษี ทั้งยังต้องมีกระบวนการนำเสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แต่ยืนยันว่า มีความจำเป็นที่จะต้องมีกฎหมายนี้เพื่อสร้างรายได้ให้แก่รัฐ ซึ่งที่ผ่านมามีการโกงภาษีและหลีกเลี่ยงภาษี ทั้งรัฐบาลชุดก่อนๆ ก็สร้างภาระหนี้สินไว้มาก หากไม่จัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง แต่ไปขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มก็จะยิ่งทำให้ประชาชนทั่วไปเดือดร้อน ซึ่งปัจจุบันเพดานภาษีอยู่ที่ร้อยละ 10 แต่ยังจัดเก็บอยู่ที่อัตราเดิมคือร้อยละ 7 ดังนั้นจึงอยากให้คนที่มีหน้าที่เสียภาษี ช่วยกันรับผิดชอบ ซึ่งส่วนตัวเป็นนายกรัฐมนตรี มีรายได้เดือนละ 75,000 บาท ก็เสียภาษีด้วยเช่นกัน ขณะที่ค่าตอบแทนเบี้ยประชุมตัวเองก็ไม่ได้รับแต่อย่างใด

*-*ผสข.วิรวินท์ ศรีโหมด