การกระตุ้นเศรษฐกิจและฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวไทย ด้วยการสร้างมาตรฐานที่ดีในการให้บริการและปลอดภัยจากโรคโควิด-19 วันนี้ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้มอบรางวัลให้สถานประกอบการที่ได้รับมาตรฐาน Safety & Health Administration (SHA) ในงานThe Best of SHA Awards 2021 เป็นมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยสำหรับกิจการด้านการท่องเที่ยว ที่จะช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดี รวมไปถึงความมั่นใจและความปลอดภัยด้านสุขอนามัย จำนวน 160 รางวัล ที่ได้รับการคัดเลือกผ่านแบบประเมินความพึงพอใจในการเข้ารับบริการจากนักท่องเที่ยวรวม 132,256 คน
สำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับมาตรฐาน SHA ประกอบด้วย โรงแรมที่พัก ร้านอาหาร สถานบันเทิง ผู้ประกอบการยานพาหนะ และ ห้างสรรพสินค้า ที่ได้ปฎิบัติตามมาตรการควบคุมโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุข
ส่วนรางวัล The Best of SHA Awards 2021 จำนวน 11 รางวัล จาก 10 ประเภทกิจการ ได้แก่
1.พระบรมมหาราชวังและวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (ประเภทนันทนาการและสถานที่ท่องเที่ยว)
2. กะทิ บ้านอาหารไทยและขนมไทย (ประเภทภัตตาคาร/ร้านอาหาร)
3. รอยัล คลิฟ โฮเต็ล กรุ๊ป (ประเภทโรงแรมที่พัก และโฮสเตย์)
4. บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด (ประเภทยานพาหนะทางอากาศ)
5. ชิค คาร์เร้นท์ (ประเภทยานพาหนะทางบก)
6. จำปาหอมทัวร์ แอนด์ ทราเวล (ประเภทบริษัทนำเที่ยว)
7. เล็ทส์ รีแลกซ์ ออนเซน แอนด์ สปา ทองหล่อ (ประเภทสุขภาพและความงาม)
8. ศูนย์การค้าสยามพารากอน (ประเภทห้างสรรพสินค้า และศูนย์การค้า)
9. สโมสรอัลไพน์กอล์ฟ (ประเภทกีฬาเพื่อการท่องเที่ยว)
10. โรงละครอักษรา คิง พาวเวอร์ (ประเภทการจัดกิจกรรม/จัดประชุม โรงละคร/โรงมหรสพ)
11. กูร์เมต์ มาร์เก็ต สาขา MRT ลาดพร้าว (ประเภทร้านค้าของที่ระลึก และร้านค้าอื่นๆ)
ทั้งนี้ สามารถดูรายชื่อสถานประกอบการที่ได้รับรางวัล The Best of SHA Awards 2021 จำนวน 160 รางวัล ได้ที่เว็บไซต์ www.thailandsha.com/thebestofsha
นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า การเป็นเจ้าบ้านที่ดีจะช่วยทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยมากขึ้น มาตรฐาน SHA จึงเปรียบเสมือนตราสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้ดำเนินการปรับปรุง พัฒนาทั้งด้านสินค้าและบริการ รวมทั้งด้านสุขอนามัย เพื่อพร้อมรับนักท่องเที่ยวไทยและต่างประเทศ โดยในปีนี้มีเป้าหมายในการสร้างรายได้จากภาคการท่องเที่ยวอยู่ที่ 1.28 ล้านล้านบาท เป็นการท่องเที่ยวในประเทศ 650,000 ล้านบาท ส่วนต่างประเทศ คาดการณ์ไว้ที่ 500,000 ล้านบาท ถึง 1,500,000 ล้านบาท
การแก้ปัญหาการชะลอการเดินทางของนักท่องเที่ยวยุโรป ที่ปกติในช่วงเดือนมี.ค.-เม.ย.จะเดินทางมาเที่ยวไทยมากขึ้น แต่จากสถานการณ์ระหว่างรัสเซียกับยูเครน ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาน้อยลง นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า หากสถานการณ์ยืดเยื้อจะทำให้ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น และนักท่องเที่ยวชะลอการเดินทาง ททท.ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ทำให้การท่องเที่ยวไทยได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ปีนี้เป็นปีที่คาดหวังในเรื่องการฟื้นฟูการท่องเที่ยวไทย
การให้ความช่วยเหลือกลุ่มนักท่องเที่ยวตกค้างทั้งรัสเซียและยูเครน ได้ดำเนินการควบคู่กับสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.)โดยมีกลุ่มนักท่องเที่ยวตกค้างอยู่ประมาณ 8,000 คน โดยแยกเป็นสองกลุ่มที่ต้องการความช่วยเหลือและไม่ต้องการความช่วยเหลือ เบื้องต้นจะประสานไปที่สถานทูตและสถานกงสุลทั้งสองประเทศ เพื่อหาทางส่งความช่วยเหลือให้นักท่องเที่ยว ทั้งกรณีที่ต้องการเดินทางกลับ หรือยังเดินทางกลับไม่ได้จากการสู้รบที่เกิดขึ้น หรือได้รับผลกระทบจากการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจจนไม่สามารถชำระสินค้าและบริการได้ โดยจะประสานกับธนาคารพาณิชย์เพื่อหาช่องทางอื่นในการชำระเงิน และได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชนให้ความช่วยเหลือ เช่น การค้นหาโรงแรมที่พัก อาหาร ในราคาถูก
นายยุทธศักดิ์ ได้ให้ความมั่นใจว่า หลังจากสถานการณ์ความตึงเครียดในรัสเซียและยูเครนคลี่คลายลง นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกจะเดินทางมาประเทศไทย ซึ่งในขณะนี้ได้มีการดำเนินการเปิดด่านระยะใกล้แล้วที่จ.สงขลาเพื่อให้นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเข้ามาท่องเที่ยวในไทย มีการทำ Travel Bubble กับประเทศอินเดีย ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้จะทำให้ไทยทำตามเป้าหมายเรื่องรายได้จากการท่องเที่ยว ระหว่างนี้เราเตรียมตัวให้พร้อม เป็นเจ้าบ้านที่ดี มาตรฐานSHAจะเป็นสัญลักษณ์การันตีความพร้อมของผู้ประกอบการในการรับนักท่องเที่ยว
#การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
#มอบรางวัลSHA