การสนับสนุนผู้รับสายด่วน 1330 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 มีคำสั่งให้ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) จัดกำลังพลสนับสนุนสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ปฏิบัติหน้าที่รับสายด่วนของ สปสช. (1330) ซึ่งมีปริมาณผู้โทรเข้ามาจำนวนมาก เพื่อช่วยเร่งนำผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เข้าสู่ระบบการรักษาเร่งด่วน
ศูนย์ประสานงานสายด่วน ศปม. สนับสนุน สปสช. (1330) จะมีทั้งหมด 200 คู่สาย ปฏิบัติภารกิจตั้งแต่เวลา 08.00-16.30 น. ของทุกวัน แบ่งเป็น
– กองบังคับการ ศปม. 40 คู่สาย
– ศปม.กองทัพบก 80 คู่สาย
– ศปม.กองทัพเรือ 40 คู่สาย
– ศปม. กองทัพอากาศ 40 คู่สาย
ทั้งนี้ สปสช.ได้จัดการอบรมและซักซ้อมการปฏิบัติงานให้เจ้าหน้าที่สายด่วน และการบันทึกข้อมูลเข้าระบบ สปสช. ไปเมื่อวันที่ 7 มี.ค.พร้อมมีแนวทางการปฏิบัติเป็นคู่มือ มีรายละเอียดของหน่วยงานที่จะต้องประสานส่งต่อข้อมูล มีกลุ่มไลน์ของผู้เชี่ยวชาญที่คอยให้คำแนะนำเจ้าหน้าที่ และรับเคสที่มีความซับซ้อนไปดำเนินการต่อ รวมทั้งมีช่องทางประสานส่งต่อเคสด่วนไปยัง 1669 โดยแต่ละเหล่าทัพจัดสถานที่ สิ่งอำนวยความสะดวก และคอมพิวเตอร์ ให้เพียงพอกับการปฏิบัติภารกิจ
ก่อนหน้านี้ นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช. เปิดเผยว่า ขณะนี้มีปัญหาการโทรไม่ติด เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 และประชาชนจำนวนมากโทรเข้ามากว่า 40,000-70,000 สายต่อวันทำให้เกินศักยภาพของระบบจะรองรับที่ผ่านมา สปสช.ได้ขยายศักยภาพของสายด่วน 1330 ให้รองรับการโทรของประชาชน แต่ก็ยังไม่ทันกับปริมาณสายโทรเข้ามามาก แต่ขณะนี้สายที่ติดต่อไม่ได้หรือสายหลุด เริ่มลดลงจากร้อยละ 60 เหลือร้อยละ 20 โดยตั้งเป้าให้เหลือไม่เกินร้อยละ 5 ขอความร่วมมือผู้ติดเชื้อเพิ่มเพื่อนกับไลน์ สปสช. @nhso และระหว่างที่หน่วยบริการติดต่อมา หากไม่มีอาการหรือมีอาการเล็กน้อยสามารถขอรับการรักษาแบบผู้ป่วยนอก (OPD) ที่สถานพยาบาลตามสิทธิหรือสถานพยาบาลภาครัฐใกล้บ้านก่อนได้
ส่วนผู้ติดเชื้อที่ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ HI แล้ว และโทรเข้ามาติดตามสอบถามความคืบหน้าเนื่องจากยังไม่ได้รับการตอบรับจากหน่วยบริการหรือรอการตอบรับนานหลายวัน ขอให้ลดความถี่หรืองดเว้นการโทรติดตามความคืบหน้า จะช่วยลดจำนวนสายโทรเข้า 1330 ลงได้อย่างมาก และช่วยให้ผู้ติดเชื้อรายใหม่สามารถโทรติดหรือลงทะเบียนเข้าระบบ HI ได้เร็วมากขึ้น
#โควิด19