ฮ่องกงปรับวิธีรับมือโควิด-19ระบาด เน้นรักษาผู้สูงอายุ ลดการตรวจเชิงรุก

          นางแคร์รี หล่ำ ผู้ว่าการเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ประกาศมาตรการป้องกันโควิด-19 ชุดใหม่ ให้เน้นไปที่การดูแลรักษาผู้สูงอายุ เนื่องจากเป็นที่กลุ่มมีอัตราการเสียชีวิตสูงสุด และส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน โดยให้เพิ่มสถานที่แยกกักตัวและรักษาพยาบาลโดยเฉพาะ

          ส่วนมาตรการทดสอบเชิงรุกขนาดใหญ่ ซึ่งก่อให้เกิดความตื่นตระหนก และความกังวลว่าจะมีการล็อกดาวน์ ประชาชนจำนวนมากมีการกักตุนสินค้า สิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น ผู้ว่าการฯฮ่องกง กล่าวว่าเป็นมาตรการทางเลือก เพราะเป็นการทดสอบที่ช่วยให้สามารถออกมาตรการได้อย่างเหมาะสม และจะใช้การทดสอบด้วยชุดทดสอบแบบรวดเร็ว (rapid tests) เป็นหลัก

          ก่อนหน้านี้ทางการจีน แนะนำให้ฮ่องกงจัดลำดับความสำคัญของการทำงานเพื่อลดการติดเชื้อ การเจ็บป่วยที่รุนแรง และการเสียชีวิต เนื่องจากมีผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นมากกว่า 500,000 คนและเสียชีวิตมากกว่า 2,500 ราย ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ฮ่องกงมีประชากร 7 ล้าน 4 แสนคน ทำให้เมื่อเปรียบเทียบสัดส่วนประชากรต่อ 1 ล้านคนในช่วง 1 สัปดาห์จนถึงวันที่ 7 มีนาคม ฮ่องกงกลายเป็นเมืองที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในโลก

          นางหล่ำ กล่าวว่า เธอจะจัดให้มีการบรรยายสรุปทุกวันเพื่อติดตามความคืบหน้าของเมืองในการต่อต้านโควิด-19 พร้อมชี้แจงข่าวลือหรือความเข้าใจผิด ซึ่งขณะนี้ฮ่องกงกำลังได้รับผลกระทบจากการที่มีอัตราการฉีดวัคซีนที่ค่อนข้างต่ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่ผู้สูงอายุ โดยประมาณร้อยละ 90.5 ของผู้อยู่อาศัยได้รับการฉีดวัคซีนอย่างน้อยหนึ่งครั้ง แต่ในกลุ่มผู้สูงอายุโดยเฉพาะผู้ที่มีอายุมากกว่า 80 ปีมีเพียงร้อยละ 50 เท่านั้นที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว

          และผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์จากมหาวิทยาลัยฮ่องกงคาดการณ์ว่าภายในสิ้นเดือนเมษายน จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมอาจสูงถึง 4 ล้าน 3 แสนคน และจะมีผู้เสียชีวิตถึง 5,000 ราย

....

#ฮ่องกง

#โควิด19