บอร์ดกพช.ทบทวนแผนรับมือวิกฤตน้ำมันเชื้อเพลิง คาดบ่ายนี้ คลังแถลงมาตรการลดผลกระทบ

08 มีนาคม 2565, 10:33น.


          การประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ในวันพรุ่งนี้ (9 มี.ค.65) จะทบทวนแผนรับมือวิกฤตน้ำมันเชื้อเพลิง หลังราคาน้ำมันดิบตลาดโลก ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง สำหรับการทบทวนแผนรับมือวิกฤตน้ำมันเชื้อเพลิงในการประชุมกพช. ครั้งนี้จะเสนอให้ปรับถ้อยคำเกี่ยวกับการดำเนินงานของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ในพ.ร.บ.กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2562 หมวด 4 มาตรา 26 ที่ระบุว่า กองทุนต้องมีจำนวนเงินเพียงพอเพื่อใช้ในการบริหารจัดการกองทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเมื่อรวมกับเงินกู้ตามวรรคสองแล้วต้องไม่เกินจำนวนสี่หมื่นล้านบาท โดยจะมีการเสนอให้ตัดบางถ้อยคำที่ว่า "ซึ่งเมื่อรวมกับเงินกู้ตามวรรคสองแล้วต้องไม่เกินจำนวนสี่หมื่นล้านบาท" ออก เพื่อช่วยให้การทำงานของกองทุนมีความยืดหยุ่นมากขึ้น หรือมีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจทำให้กองทุนสามารถกู้เงินมาใช้ดูแลเสถียรภาพราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศได้ตามความเหมาะสมแต่ละสถานการณ์และความจำเป็นได้มากขึ้น



          ล่าสุด คณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบให้กู้ 20,000 ล้านบาท จากกรอบวงเงิน 30,000 ล้านบาท หากจำเป็นสามารถกู้ได้อีก 10,000 ล้านบาท ซึ่งกฎหมายกำหนดเพดานเงินกองทุนต้องมีไม่เกิน 40,000 ล้านบาท



          รายงานระบุว่า ในช่วงบ่าย 14.30 น.  นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะมีการแถลงมาตรการบรรเทาผลกระทบให้กับประชาชน



          ก่อนหน้านี้ นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กรณีราคาน้ำมันดิบโลกพุ่งขึ้นเหนือระดับ 130 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ซึ่งสูงสุดในรอบ 13 ปี จากกรณีสหรัฐฯ และชาติตะวันตก เตรียมจะคว่ำบาตรน้ำมันจากรัสเซียนั้น เรื่องนี้กระทรวงการคลัง ขอประเมินสถานการณ์ก่อนว่า จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในประเทศอย่างไรบ้าง และจะจับตาดูทิศทางของราคาน้ำมันในตลาดโลกอย่างใกล้ชิด 



         นายพรชัย กล่าวว่า อย่างไรก็ตามเรื่องราคาน้ำมันในประเทศกระทรวงพลังงานจะเป็นผู้ที่ดูแลอยู่แล้ว เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชน ส่วนจะมีมาตรการอะไรออกมาช่วยเหลือหากราคาน้ำมันในประเทศปรับตัวสูงขึ้นตามราคาน้ำมันโลกหรือไม่ จะต้องรอดูแนวทางของกระทรวงพลังงานว่าจะมีท่าทีต่อเรื่องนี้อย่างไร ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลได้ออกมาตรการตรึงราคาไว้ให้ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร โดยใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาช่วยรักษาเสถียรภาพด้านราคาน้ำมันเชื้อเพลิง และอนุมัติให้ลดการเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลง 3 บาทต่อลิตรกระทรวงการคลังจะหารือกับหน่วยงานต่างๆทั้งตลาดเงินและตลาดทุน ไม่ว่าจะเป็นธนาคารแห่งประเทศไทย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อประเมินผลกระทบปัจจัยต่างๆที่จะมีต่อภาพรวมเศรษฐกิจ โดยเฉพาะกรณีการสู้รบระหว่างรัสเซียกับยูเครนว่าจะมีผลกระทบต่อทางตรงและทางอ้อมกับไทยอย่างไรบ้าง โดยต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หลังจากนั้นจะวิเคราะห์ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยทั้งทางตรงและทางอ้อมว่ามีเรื่องใดบ้าง



#รับมือน้ำมันแพง



#คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงานแห่งชาติ



แฟ้มภาพ

ข่าวทั้งหมด

X