สำนักงานประธานาธิบดีรัสเซีย เปิดเผยในแถลงการณ์ว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียได้บอกประธานาธิบดีเรเซ็บ เทยิบ เออร์โดกันของตุรกี ระหว่างพูดคุยทางโทรศัพท์ เมื่อวานนี้ ระบุว่า การปฏิบัติการพิเศษของกองทัพรัสเซียในยูเครน มีความคืบหน้าตามแผนการที่วางไว้ทุกอย่าง ทั้งวิจารณ์รัฐบาลยูเครนว่าใช้พลเรือนและชาวต่างชาติเป็นโล่ห์มนุษย์(human shields) ป้องกันการโจมตีจากรัสเซีย
นายปูติน ย้ำว่า รัสเซียจะยุติการบุกยูเครนก็ต่อเมื่อยูเครนยอมยุติการกระทำในเชิงมุ่งร้ายต่อรัสเซีย ทั้งยอมทำตามคำเรียกร้องจากรัสเซีย โดยเฉพาะเรื่องการประกาศให้ยูเครน เป็นเขตปลอดทหารและมีสถานะเป็นกลางไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด
ผู้นำรัสเซียได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศสเมื่อวานนี้เช่นกัน โดยสำนักงานประธานาธิบดีฝรั่งเศส เปิดเผยว่า นายมาครง แสดงความกังวลอย่างมากในเรื่องความเสี่ยงต่อความปลอดภัยในชีวิตของชาวยูเครนจากการปฏิบัติการทางการทหารของรัสเซียใกล้กับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริซเซียทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน ซึ่งสำนักงานประธานาธิบดีรัสเซีย ระบุว่า นายปูติน บอกนายมาครงว่า โรงไฟฟ้าดังกล่าวมีระบบรักษาความปลอดภัยอย่างดี
นายปูติน กล่าวว่า มาตรการทุกอย่างของรัสเซียมุ่งหมายเพื่อหยุดยั้งความก้าวร้าวจากรัฐบาลยูเครนที่มีแนวคิดนาซียุคใหม่ หรือผู้ก่อการร้ายชาวยูเครน ให้เลี่ยงการกระทำต่างๆที่จะทำให้เกิดหายนะร้ายแรงต่อยูเครน
ในประเด็นนี้ นายปูติน ชื่นชมข้อเสนอจากสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ(ไอเออีเอ)เรื่องการจัดประชุม 3 ฝ่ายระหว่างรัสเซีย ยูเครน และ ไอเออีเอ เพื่อพูดคุยเรื่องความปลอดภัยเกี่ยวกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในยูเครน ระบุว่าเป็นแนวคิดที่ดี แต่นายปูตินเสนอให้มีการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ หรือ จัดประชุมในประเทศที่สาม และต้องไม่จัดประชุมในยูเครน
นอกจากนั้น นายปูตินได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีนัฟตาลี เบ็นเน็ตต์ของอิสราเอล เมื่อวานนี้ หรือ สองวันหลังจากผู้นำทั้งสองคนประชุมแบบเจอกันในกรุงมอสโกว์
ด้านบรรษัทกระจายเสียงเอ็นเอเชของญี่ปุ่น รายงานว่า ที่ผ่านมา ทั้งผู้นำของตุรกี ฝรั่งเศส อิสราเอล และประเทศอื่นๆพยายามจะขอเสนอตัวเป็นผู้ช่วยไกล่เกลี่ยระหว่างรัสเซียกับยูเครน แต่ยังไม่มีสัญญาณ ชี้ว่า ผู้นำรัสเซียจะยอมลดวาราศอกเกี่ยวกับปฏิบัติการบุกยูเครนในครั้งนี้
#รัสเซีย
#การไกล่เกลี่ย
#วิกฤติยูเครน