กรณีประชาชนสอบถาม การจ่ายเงินค่าบริการผู้ติดเชื้อโควิดฯ แบบผู้ป่วยนอกตามแนวทาง "เจอ แจก จบ" เป็นการจ่ายชดเชยให้กับประชาชนที่ติดเชื้อหรือไม่นั้น นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า กรณีรักษาผู้ป่วยนอกโควิด-19แบบ OPD จะชี้แจงทำความเข้าใจเพิ่มเติมอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (3 มี.ค.นี้) พร้อมย้ำว่า การจ่ายค่าบริการดังกล่าว ไม่ใช่จ่ายให้ผู้ติดเชื้อโควิด แต่เป็นการจ่ายค่าบริการให้กับหน่วยบริการ หรือสถานพยาบาลที่จัดทำแนวทางเวชปฏิบัติการวินิจฉัย ดูแลรักษาและการให้บริการผู้ติดเชื้อโควิด-19 แบบผู้ป่วยนอก ซึ่งเป็นแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเตรียมความพร้อมการดูแลผู้ป่วยแบบโรคประจำถิ่น (Endemic) โดยเสริมบริการดังกล่าวขึ้นมา สำหรับผู้ติดเชื้อที่ไม่มีภาวะเสี่ยง ซึ่งเริ่มดำเนินการไปแล้วตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 2565 ที่ผ่านมาการดูแลผู้ป่วยตามระบบ Home Isolation (HI) และ Community Isolation (CI) ก็มีเกณฑ์การจ่ายค่าบริการให้หน่วยบริการหรือรพ. หรือคลินิกที่ดูแลผู้ป่วยผ่านระบบการรักษาที่บ้านและชุมชน อย่างตอนนั้นมีคนบอกว่า ให้ค่าอาหารประชาชนเลยได้หรือไม่ ตามกฎหมายไม่สามารถทำได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการเพิ่มการบริการให้ผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ ด้วยการรักษาแบบผู้ป่วยนอก หรือ โอพีดีนั้น สปสช.จึงต้องทำเกณฑ์การเบิกจ่ายเฉพาะกรณีนี้ เนื่องจากการโทรสอบถามติดตามอาการผู้ป่วยจะอยู่ที่ 48 ชั่วโมง หรือ โทร 2 ครั้ง จึงให้เบิกได้จำนวน 1,000 บาท
นอกจากนี้ หากหลังการดูแลครบ 48 ชั่วโมง แต่พบว่าผู้ป่วยมีอาการเปลี่ยนแปลง และมีการให้บริการโทรให้คำปรึกษา ทางสปสช.จะจ่ายให้อีก 300 บาท เฉลี่ยคือ จะจ่ายให้หน่วยบริการตั้งแต่ 1,000- 1,300 บาท อันนี้ไม่รวมค่าเอ็กซเรย์ หากเดินทางไปคลินิกแล้วแพทย์วินิจฉัยว่า จำเป็นต้องเอ็กซเรย์ก็จะจ่ายเพิ่มอีก 100 บาท หรือกรณีผู้ป่วยเดินมาที่คลินิก แพทย์สั่งตรวจ ATK ก็จ่ายอีก 250 บาท หรือถ้าจำเป็นต้องตรวจ RT-PCR ก็จ่ายให้หน่วยบริการอีก 900 บาท
ส่วนกรณีประชาชนสงสัยว่าหากต้องการรักษาแบบโอพีดี แต่ไม่มีรถส่วนตัว สามารถประสานสาธารณสุขพื้นที่ขอรถได้หรือไม่ นพ.จเด็จ กล่าวว่า จริงๆอาการของผู้ป่วยที่จะเดินทางมารักษาแบบผู้ป่วยนอก คือ ไม่มีอาการ หรืออาการน้อยมากๆ ซึ่งการที่ประสานรถ ส่วนใหญ่เราเตรียมไว้กรณีผู้ป่วยในระบบ HI และเริ่มมีอาการเปลี่ยนแปลงก็จะมีรถไปรับ ซึ่งเดิมทีจะใช้รถพยาบาลฉุกเฉินหรือ Ambulance แต่ขณะนี้เราก็มีโมเดลของรพ.ราชวิถี ที่มีรถแท็กซี่ที่เข้าร่วม แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะใช้ได้หมด อยู่ที่การประเมินอาการ
#โควิด19