นักการทูตวอล์คเอาท์ออกจากห้องประชุมยูเอ็น ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียแถลง

         สมัชชาใหญ่ของสหประชาชาติเปิดประชุมในวันนี้ เพื่อลงมติประณามรัสเซียกรณีรุกรานยูเครน พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัสเซียยุติการสู้รบและถอนกำลังทหารออกจากยูเครน นับเป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่มุ่งจะโดดเดี่ยวรัสเซียในเวทีโลก ขณะที่ นักการทูตนับร้อยคนที่เป็นตัวแทนจาก 40 ประเทศ แสดงออกเชิงสัญลักษณ์คัดค้านรัสเซียที่นำกำลังบุกยูเครน ด้วยการ “วอล์คเอาท์” ออกจากที่ประชุม ขณะที่นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย แถลงต่อที่ประชุมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชน แห่งสหประชาชาติ ที่เมืองเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์

          โดยบรรดานักการทูตจากสหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ญี่ปุ่น และอีกหลายประเทศ เดินออกจากห้องประชุมกันนับร้อยคน เหลือเพียงนักการทูตไม่กี่คนเท่านั้น โดยผู้ที่ยังคงนั่งอยู่ในที่ประชุมคือเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรรัสเซีย ประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา เจนนาดี กาติลอฟ อดีตรัฐมนตรีช่วยต่างประเทศรัสเซีย และทูตจากซีเรีย จีน และเวเนซุเอลา

          รายงานระบุว่ากลุ่มนักการทูตที่เดินวอล์คเอาท์ออกจากที่ประชุมคือเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรยูเครน เยฟเฮเนีย ฟิลิเปนโก ซึ่งออกมาขอบคุณผู้ที่ร่วมแสดงออกด้วยการวอล์คเอาท์ในครั้งนี้

         ก่อนหน้านี้ นางแอนนาเลนา แบร์บอก รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี แถลงต่อที่ประชุมยูเอ็นเมื่อวานนี้ว่า การบุกยูเครนของรัสเซียเป็นความจริงใหม่ที่เกิดขึ้น ซึ่งประเทศสมาชิกทั้งหมดจะต้องตัดสินใจเรื่องนี้อย่างหนักแน่นและอย่างมีความรับผิดชอบ และแสดงจุดยืนให้ชัดเจน

         เกือบครึ่งหนึ่งของสมาชิก 193 ประเทศของสมัชชาใหญ่ยูเอ็น ร่วมลงนามในฐานะผู้สนับสนุนร่างมติ เมื่อค่ำวานนี้ ก่อนการประชุมลงมติในวันนี้ ร่างมติดังกล่าวมีเนื้อหาประณามรัสเซียกรณีรุกรานยูเครน ซึ่งคล้ายกับร่างมติของ 15 ประเทศสมาชิกของคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น ซึ่งรัสเซียใช้สิทธิ์ยับยั้งเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ทำให้คณะมนตรีความมั่นคงลงมติประณามรัสเซียไม่สำเร็จ แต่ไม่มีประเทศใดสามารถจะใช้สิทธิ์ยับยั้งมติของที่ประชุมสมัชชาใหญ่ และทูตของชาติตะวันตกส่วนใหญ่คาดว่าที่ประชุมจะลงมติคราวนี้สำเร็จ ซึ่งใช้คะแนนเสียง 2 ใน 3 ของสมาชิกสมัชชาใหญ่ของยูเอ็น

#ยูเอ็น

#วิกฤติยูเครน