วิกฤตยูเครน-รัสเซีย:น้ำมันดิบเบรนท์ ปิดตลาดพุ่งขึ้น 100 ดอลลาร์ฯ

          รัสเซีย มีความเสี่ยงสูงขึ้น เผชิญความวุ่นวายอย่างรุนแรงในการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ทั้งหลาย ตั้งแต่น้ำมันไปจนถึงธัญพืช หลังจากตะวันตกกำหนดมาตรการคว่ำบาตรหนักหน่วง และตัดธนาคารบางแห่งของรัสเซียออกจากระบบชำระเงินระหว่างประเทศ SWIFT น้ำมันดิบของรัสเซีย คิดเป็นราวๆ 10% ของน้ำมันโลก

-น้ำมันดิบเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเมษายน ซึ่งสิ้นสุดสัญญาในวันจันทร์ เพิ่มขึ้น 3.06 ดอลลาร์ ปิดที่ 100.99 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และงวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 3.85 ดอลลาร์ ปิดที่ 97.97 ดอลลาร์

-สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 4.13 ดอลลาร์ ปิดที่ 95.72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

*ราคาน้ำมันในตลาดสิงคโปร์ ลดลง 0.11 ดอลลาร์ ปิดที่ 110.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

          ราคาทองคำ ปิดตลาดวันจันทร์(28ก.พ.) พุ่งกลับไปอยู่เหนือ 1,900 ดอลลาร์

-ราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 13.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,900.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์

         ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันจันทร์(28ก.พ.) ปิดผสมผสาน โดยดาวโจนส์และเอสแอนด์พี 500 ปิดในแดนลบ ตามแรงฉุดของภาคสถาบันการเงิน หลังตะวันตกคว่ำบาตรรัสเซีย ขณะที่รัสเซียยังคงเดินหน้ารุกรานยูเครน

-ดาวโจนส์ ลดลง 166.15 จุด (0.49 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 33,892.60 จุด

-เอสแอนด์พี ลดลง 10.71 จุด (0.24 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,373.94 จุด

-แนสแดค เพิ่มขึ้น 56.77 จุด (0.41 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,751.40 จุด

         ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทเคลื่อนไหวตามตลาดทุนทั่วโลกที่ดิ่งลงอย่างหนัก ธนาคารกลางและกระทรวงการคลังของรัสเซีย ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากมาที่ร้อยละ 20 จากร้อยละ 9.5 เพื่อให้ธนาคารรัสเซียสามารถรับมือกับปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เช่น เงินรูเบิลของรัสเซียที่อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่นๆรวมทั้งดอลลาร์สหรัฐฯและภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้น

#น้ำมันโลกพุ่งเหนือ100ดอลลาร์