เปิดมาตรการเข้าประเทศ มีผล 1 มี.ค.65

28 กุมภาพันธ์ 2565, 12:38น.


          เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ 5/2565 เรื่อง แนวปฏิบัติตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 23)



          ประกาศดังกล่าว ระบุว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติในการประชุมเมื่อวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2565 ให้ขยายระยะเวลา การบังคับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรออกไปตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2565 จนถึงวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2565 นั้น



          โดยที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ได้ออกคำสั่งเพื่อกำหนดมาตรการป้องกันโรคให้เหมาะสมต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 กลายพันธุ์ สายพันธุ์โอไมครอน (Omicron) ที่สามารถแพร่กระจายและมีโอกาสติดเชื้อได้ง่ายกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ



          และพบว่า ไวรัสโคโรนากลายพันธุ์ สายพันธุ์โอมิครอนไม่ทำให้ผู้ติดเชื้อเกิดอาการป่วยที่รุนแรง จึงเห็นควรปรับมาตรการป้องกันโรคให้มีความเหมาะสม และให้การปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่เป็นไปอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์



          นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 จึงมีคำสั่งให้หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินและพนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการ ให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันโรค มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2565 ดังนี้ 



เงื่อนไขผู้เดินทาง



1. เดินทางมาได้จากทุกประเทศ/พื้นที่



2. เป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนครบตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กำหนด



3. ฉีดวัคซีนที่ขึ้นทะเบียนกับ อย. หรือเป็นวัคซีนที่ สธ. หรือ องค์การอนามัยโลก (WHO) รับรอง ได้รับอย่างน้อย 14 วัน ก่อนเดินทาง ประกอบด้วย



วัคซีนซิโนแวค



วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า



วัคซีนไฟเซอร์



วัคซีนโมเดอร์นา



วัคซีนซิโนฟาร์ม



วัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน



วัคซีนสปุตนิก วี



เอกสารที่ใช้ลงทะเบียน



1. หนังสือเดินทาง



2. เอกสารรับรองการฉีดวัคซีน



อายุ 12-17 ปี ได้รับวัคซีน 1 เข็ม ถือว่าฉีดวัคซีนครบ



อายุต่ำกว่า 18 ปี ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนต้องลงทะเบียนและเดินทางพร้อมผู้ปกครอง



3. หลักฐานการชำระเงินค่าโรงแรม SHA Extra+ / AQ จำนวน 1 วัน (วันที่เดินทางมาถึง) และค่าตรวจ RT-PCR 1 ครั้ง ชุดตรวจ ATK self-test 1 ชุด และพาหนะรับส่งจากสนามบิน



4. กรมธรรม์ประกันภัยที่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลในวงเงินไม่น้อยกว่า 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ



ผู้มีสัญชาติไทยไม่ต้องมีประกัน



ชาวต่างชาติสามารถใช้เอกสารประกันสังคมหรือเอกสารรับรองจากนายจ้าง/หน่วยงานในไทยแทนได้



ขั้นตอนเดินทาง Test & Go



1. ลงทะเบียนผ่านระบบ Thailand Pass ที่ https://tp.consular.go.th/ (ใช้เวลาพิจารณา 3-7 วัน)



2. ก่อนเข้าประเทศไทย: ตรวจหาเชื้อแบบ RT-PCR ผลตรวจภายใน 72 ชม. (ก่อนเดินทาง)



3.เมื่อเดินทางถึงประเทศไทย: ผ่านจุดตรวจ และเดินทางไปยังโรงแรมด้วยพาหนะโรมแรมในรูปแบบ sealed route หรือ การควบคุมนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ท่องเที่ยวตามเส้นทางที่กำหนด (ดำเนินการโดยโรงแรม)



4. ตรวจหาเชื้อแบบ RT-PCR ในวันแรกที่เดินทางถึงและรอผลตรวจที่โรงแรม



5. ตรวจ ATK self-test ด้วยตัวเองในวันที่ 5-6 (หลังเดินทางมาถึง) และรายงานผลตรวจผ่านช่องทางที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด





 



#โควิด19



#ปรับมาตรการเข้าไทย



 



 

ข่าวทั้งหมด

X