นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) นัดประชุมเป็นพิเศษ ในวันพุธที่ 11 มี.ค. เพื่อดำเนินกระบวนการถอดถอนอดีตสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) 38 คน ออกจากตำแหน่งกรณีแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องที่มา ส.ว.โดยมิชอบว่า เป็นการประชุมในขั้นตอนการรับฟังคำแถลงปิดสำนวนด้วยวาจาของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ( ป.ป.ช. )ผู้กล่าวหา และอดีต ส.ว. ผู้ถูกกล่าวหา และ นัดลงมติในวันพฤหัสฯที่ 12 มี.ค. เลื่อนจากกำหนดเดิมคือในวันที่ 13 มี.ค.
ด้านนพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในฐานะโฆษกวิป สนช. กล่าวถึง การพิจารณาคดีถอดถอนอดีต 38 ส.ว.กรณีแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องที่มา ส.ว.โดยมิชอบว่า ได้รับการประสานมาล่าสุดว่า ที่ประชุมจะขยับการลงมติการถอดถอนคดีดังกล่าวมาเป็นวันที่ 12 มี.ค. จากเดิมในวันที่ 13 มี.ค. เนื่องจากทราบว่า ในช่วงวันที่ 13 มี.ค. รัฐบาลจะไปจัดประชุม ครม.สัญจร ดังนั้นที่ประชุม สนช. จึงเลื่อนวันลงมติในเร็วขึ้น 1 วัน ซึ่งไม่ใช่เรื่องการเร่งรีบ หรือรวบรัดการลงมติ เพราะขยับขึ้นมาแค่เพียงวันเดียว คงไม่มีปัญหาอะไร ส่วนวันแถลงปิดสำนวนคดียังเป็นวันที่ 11 มี.ค.เช่นเดิม วิธีการลงมติ วิป สนช.ได้ข้อสรุปว่า จะใช้วิธีการลงมติเป็นรายบุคคล โดยแยกความผิดเป็น 4 ฐานความผิด ประกอบด้วย 1.กรณีการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย และลงมติในวาระ 3 จำนวน 2 คน 2.กรณีเข้าชื่อเสนอกฎหมายและลงมติในวาระ 1,2 และ 3 จำนวน 22 คน 3.กรณีการเข้าชื่อเสนอกฎหมายและลงมติในวาระ 1 และ 3 จำนวน 13 คน 4.กรณีการเข้าชื่อเสนอกฎหมายและลงมติวาระ 2 เพื่อให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจของสมาชิก สนช. และสะดวกต่อการนับคะแนน