รมต.กลาโหมอังกฤษเผยพันธมิตรยุโรปควรรีบส่งกำลังทหารไปขวางรัสเซียก่อนยูเครนถูกยึดทั้งหมด

                    นายเบน วอลเลซ รัฐมนตรีกลาโหมของอังกฤษ กล่าวในการเปิดประชุมกองกำลังรบนอกประเทศ(Joint Expeditionary Force) ซึ่งประกอบด้วยรัฐมนตรีกลาโหมจากประเทศในแถบทะเลบอลติก (Baltic states)และกลุ่มประเทศนอร์ดิก (Nordic countries) ซึ่งมีอังกฤษเป็นแกนนำ ระบุว่า ถึงเวลาแล้วที่กองกำลังรบนอกประเทศ จะเริ่มลงมือส่งกำลังทหารเข้าไปยังยูเครนเพื่อสกัดกั้นกองทัพรัสเซียไม่ให้ทำลายความมั่นคงทั้งของพันธมิตรทางทหารในองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ(นาโต)และสหภาพยุโรป(อียู)เพื่อปกป้องค่านิยมร่วมกันคือ สันติภาพและเสถียรภาพของยุโรป         

          นายวอลเลซ กล่าวว่า การที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย รับรองพื้นที่ควบคุมของฝ่ายกบฏในพื้นที่ภาคตะวันออกของยูเครนเป็นสัญญาณที่น่าเป็นกังวลอย่างยิ่งต่อความมั่นคงของยุโรป ทั้งกล่าวหารัสเซียกระทำละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างชัดแจ้ง

          สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในยูเครนในขณะนี้น่าเป็นกังวลมาก ทั้งๆที่ยูเครนเป็นรัฐอิสระ แต่ดินแดนบางส่วนทางภาคตะวันออกของยูเครนกลับถูกรัสเซียผนวกเข้าเป็นอาณาเขตส่วนหนึ่งโดยละเมิดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ ทั้งๆที่ยูเครนเป็นรัฐที่มีอำนาจอธิปไตยแห่งหนึ่งในยุโรป และมีการปกครองแบบประชาธิปไตย จึงเป็นเรื่องที่ทุกประเทศทั่วทวีปยุโรปควรจะรู้สึกกังวลต่อสถานการณ์ในยูเครน

           สำหรับสมาชิกกองกำลังรบนอกประเทศ มีสมาชิก เช่น เดนมาร์ก ฟินแลนด์ เอสโตเนีย ไอร์แลนด์ ลัตเวีย เนเธอร์แลนด์ สวีเดนและนอร์เวย์

#อังกฤษ

#วิกฤติยูเครน