สหพันธ์นักวิทยาศาสตร์อเมริกัน (Federation of American Scientists--FAS)เปิดเผยว่า 9 มหาอำนาจทางอาวุธนิวเคลียร์เช่น สหรัฐฯ รัสเซีย อังกฤษ ฝรั่งเศส จีน อินเดีย อิสราเอล ปากีสถานและเกาหลีเหนือ มีหัวรบนิวเคลียร์รวม 13,000 ลูก ในจำนวนนี้ สหรัฐฯและรัสเซีย มีหัวรบนิวเคลียร์รวม 12,000 ลูก สะท้อนให้เห็นความตึงเครียดที่ตกค้างมาตั้งแต่ยุคสงครามเย็นระหว่างสองมหาอำนาจคือ สหรัฐฯกับรัสเซีย
ในตอนแรก สหรัฐฯหวังจะครอบครัวข้อมูลเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์แต่เพียงประเทศเดียว จนกระทั่งต่อมาข้อมูลความลับเรื่องเทคโนโลยีสำหรับการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐฯรั่วไหลถึงบุคคลภายนอก ทั้งนี้ สหรัฐฯเริ่มทดลองอาวุธนิวเคลียร์ครั้งแรกในเดือนกรกฎาคม 2488 และทิ้งระเบิดปรมาณู 2 ลูกยังเมืองฮิโรชิมาและเมืองนางาซากิ ญี่ปุ่นในเดือนสิงหาคม 2488
อีก 4 ปีต่อมา รัสเซีย หรืออดีตสหภาพโซเวียตในขณะนั้นจึงทำการทดลองอาวุธนิวเคลียร์เป็นครั้งแรก ขณะที่อังกฤษเริ่มทดลองอาวุธนิวเคลียร์ในปี 2495 ฝรั่งเศสทดลองอาวุธนิวเคลียร์ครั้งแรกในปี 2503 และประเทศจีนทดลองอาวุธนิวเคลียร์ครั้งแรกในปี 2507 ต่อมาสหรัฐฯและพันธมิตรเจรจาให้มีการทำสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ (NPT)ในปี 2511 และสนธิสัญญาว่าด้วยการห้ามทดลองนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์ (CTBT)ในปี 2539 ที่ผ่านมา อินเดีย อิสราเอลและปากีสถานไม่ยอมลงนามในข้อตกลง NPT และมีอาวุธนิวเคลียร์ในคลังอาวุธจำนวนมาก
ต่อมาในปี 2513 สหรัฐฯและรัสเซียเจรจาทำข้อตกลงเพื่อควบคุมอาวุธระหว่างทั้งสองฝ่าย ซึ่งต่อมาช่วยให้ทั้งสองฝ่ายลดคลังอาวุธนิวเคลียร์ของแต่ละฝ่ายโดยลำดับ
#นิวเคลียร์
#มหาอำนาจนิวเคลียร์