ความคืบหน้าการประชุมด่วนของคณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติ (UNSC)ที่สำนักงานใหญ่ของยูเอ็นในนครนิวยอร์ก สหรัฐฯ หารือเรื่องสถานการณ์วิกฤติในยูเครน หลังจากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย ประกาศรับรองให้ 2 พื้นที่ยึดครองของฝ่ายกบฏยูเครนคือ สาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์ และ สาธารณรัฐประชาชนลูฮานสก์ เป็นรัฐอิสระ
นายวาซิลี เนเบนซย่า เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำยูเอ็น ในฐานะหนึ่งใน 5 สมาชิกถาวรของ UNSC เช่นเดียวกับสหรัฐฯ รัสเซีย ฝรั่งเศส อังกฤษและจีน ได้พูดต่อที่ประชุม กล่าวถึง เหตุผลที่รัสเซียต้องเข้ามาช่วยปกป้องกลุ่มกบฏที่ฝักใฝ่รัสเซียในพื้นที่ภาคตะวันออกของยูเครน โดยระบุว่า ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา กองกำลังรัฐบาลยูเครน แสดงความก้าวร้าวด้วยการระดมยิงปืนใหญ่โจมตีย่านชุมชนในพื้นที่ควบคุมของฝ่ายกบฏอย่างรุนแรง
นายเนเบนซย่า กล่าวว่า รัสเซียจำเป็นต้องดำเนินการเรื่องนี้ เพื่อป้องกันเหตุปะทะระหว่างกองกำลังรัฐบาลยูเครนกับฝ่ายกบฏในพื้นที่ภาคตะวันออกของยูเครน จนถึงขั้นอาจจะเกิดเหตุการณ์นองเลือด ซึ่งอาจจะทำให้ประชาชนจำนวนมากในยูเครนเสียชีวิตหรือบาดเจ็บ ทั้งย้ำว่ารัสเซียเปิดกว้างสำหรับการเจรจาทางการทูตเพื่อคลี่คลายปัญหานี้ ทั้งเห็นว่ายูเครนจะต้องทำตามข้อตกลงสันติภาพกรุงมินสก์ ตามที่ลงนามไว้ในปี 2557 ซึ่งมุ่งจะยุติการปะทะกันในพื้นที่ภาคตะวันออกของยูเครน ระหว่างกองทัพยูเครนกับฝ่ายกบฏ หลังสู้รบกันเป็นระยะๆมาตลอด 8 ปีที่ผ่านมา
ด้านนายจาง จุน เอกอัครราชทูตจีนประจำยูเอ็น ขอให้ทุกฝ่ายใช้ความอดกลั้น เลี่ยงการกระทำต่างๆที่อาจจะทำให้สถานการณ์แย่กว่าเดิม โดยระบุว่า จีนขอใช้แนวทางการเจรจาทางการทูตเพื่อแก้ไขปัญหาข้อพิพาทเกี่ยวกับยูเครน
ด้านนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ทวีตข้อความประณามรัสเซียที่ให้การหนุนหลังฝ่ายกบฏในพื้นที่ภาคตะวันออกของยูเครนว่าเป็นเรื่องที่น่าตำหนิและเป็นเรื่องที่สหรัฐฯคาดการณ์มาตั้งแต่แรก
#UNSC
#วิกฤติยูเครน