มาตรการรองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า สำนักการแพทย์และสำนักอนามัยได้รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 วันนี้ กทม. มีผู้ป่วยใหม่ 2,753 คน เสียชีวิต 3 ราย สำหรับผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาแบบกักตัวที่บ้าน (HI) ในวันนี้ มีจำนวน 3,272 คน สะสม 52,775 คน อยู่ระหว่างการรักษา จำนวน 21,790 คน จำหน่ายสะสม 30,985 คน ในส่วนของศักยภาพเตียงใน กทม. ที่รองรับผู้ป่วยโควิด-19 จากโรงพยาบาลทั้งหมด 226 แห่ง มีเตียงรองรับทั้งหมด 44,345 เตียง แบ่งตามกลุ่มได้แก่ โรงพยาบาลหลัก 48 แห่ง 4,673 เตียง โรงพยาบาลสนาม 17 แห่ง 2,941 เตียง และ Hospitel 161 แห่ง 36,731 เตียง (ข้อมูลจากกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข วันที่ 17 ก.พ. 65 เวลา 20.00 น.)
ในส่วนของอัตราการครองเตียง ที่อยู่ในความดูแลของสำนักการแพทย์ กทม. มีจำนวนเตียงทั้งหมด 3,460 เตียง ครองเตียง 2,976 เตียง (86.01%) เตียงว่าง 484 เตียง (13.99%) โดยศูนย์พักคอย (Community Isolation) มีจำนวน 31 แห่ง รองรับผู้ป่วยได้ 3,981 เตียง โดยมีอัตราการครองเตียง 1,716 ราย (43.10%) คงเหลือ 2,065 เตียง แบ่งออกเป็น ศูนย์พักคอยที่เปิดบริการและมีผู้ป่วยเข้ารับการรักษา จำนวน 19 แห่ง 2,858 เตียง ศูนย์พักคอยที่เปิดบริการแต่ยังไม่มีผู้ป่วย จำนวน 7 แห่ง 648 เตียง และศูนย์พักคอยที่พร้อมเปิดดำเนินการ (standby mode) จำนวน 5 แห่ง 475 เตียง (ข้อมูล ณ วันที่ 21 ก.พ. 65 เวลา 08.00 น.)
โดยกรุงเทพมหานคร ได้เตรียมพร้อมศักยภาพการขยายเตียงเพื่อรองรับผู้ป่วยโควิด-19 หากมีแนวโน้มจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น โดยผู้ติดเชื้อไม่มีอาการหรืออาการน้อย เป็นผู้ป่วยระดับสีเขียว ขอให้เข้าระบบการดูแลที่บ้านหรือชุมชน (HI/CI First) จะทำให้เตียงในโรงพยาบาลมีเพียงพอสำหรับรองรับผู้ติดเชื้อที่จำเป็นต้องใช้เตียงในโรงพยาบาล และสำรองเตียงให้กับผู้ป่วยระดับสีเหลืองและแดง รวมทั้งผู้ป่วยทั่วไปและโรคอื่น ๆ ด้วย
กรุงเทพมหานคร ขอเชิญชวนประชาชนกลุ่ม 608 รวมทั้งผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนเข็ม 3 เข้ารับวัคซีนป้องกันโควิด-19 โดยเร็ว โดยสามารถลงทะเบียนเพื่อขอรับวัคซีนได้ที่แอปพลิเคชัน QueQ เลือก "ศูนย์ฉีดวัคซีน กทม.” เลือกสถานที่เข้ารับบริการใกล้บ้าน ซึ่งมีให้เลือกถึง 105 แห่ง และยังสามารถลงทะเบียนได้ที่ศูนย์บริการสาธารณสุขของกทม.ทั้ง 69 แห่ง และสำนักงานเขตทั้ง 50 เขต
นายชวินทร์ ศิรินาค รองปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมซักซ้อมแนวทางการฉีดวัคซีนเด็กอายุ 5-11 ปี ในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร โดยเริ่มให้บริการกลุ่มแรกในวันที่ 28 ก.พ.นี้ ทั้งนี้ การฉีดวัคซีนสูตรใดขึ้นอยู่กับความสมัครใจของผู้ปกครอง และการฉีดวัคซีนจะมีประโยชน์กับเด็ก
สำหรับการให้วัคซีนโควิด-19 ในเด็กอายุ 5-11 ปี ตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข ประกอบด้วย เด็กอายุ 5-6 ปี ให้รับวัคซีนไฟเซอร์ 2 เข็ม ระยะห่างระหว่างเข็ม 8 สัปดาห์ เด็กอายุ 6-11 ปี สามารถรับวัคซีนได้ 3 สูตร คือ ไฟเซอร์ 2 เข็ม ระยะห่างระหว่างเข็ม 8 สัปดาห์ ซิโนแวค 2 เข็ม ระยะห่างระหว่างเข็ม 4 สัปดาห์ และสูตรไขว้ ซิโนแวคและไฟเซอร์ ระยะห่างระหว่างเข็ม 4 สัปดาห์ โดยเด็กที่แจ้งความประสงค์รับวัคซีนไฟเซอร์ 2 เข็ม จะเป็นการรับบริการ ณ สถานศึกษาที่กำหนด
#โควิด19
#เด็กเล็ก