ปัญหาน้ำมันรั่วไหลค้างท่อทะเลระยอง นายจิระศักดิ์ มหาสุคนธ์ เจ้าหน้าที่บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC เผยว่าทางบริษัทจะลงไปดูดเอาน้ำมันดิบจำนวน 1.2 หมื่นลิตรที่ค้างในท่อออกในวันพรุ่งนี้ (22 ก.พ.) หลังกรมเจ้าท่าอนุมัติปฏิบัติการแล้ว โดยขั้นตอนแรก จะเริ่มดูดเอาน้ำมันดิบในท่อออกมาทั้งหมดก่อน คาดว่าจะใช้เวลา 2 วัน หลังจากนั้นก็จะเริ่มขั้นตอนปฏิบัติการซ่อมรอยรั่วของท่อต่อทันที โดยจะดำเนินแผนการที่นำเสนอต่อกรมเจ้าท่า โดยจะมีหน่วยงานรัฐและเอกชนร่วมปฏิบัติการซ่อมด้วย ซึ่งท่อที่จะซ่อมนั้นอยู่ห่างจากฝั่งประมาณ 20 กิโลเมตร ลึกลงไปประมาณ 27 เมตร
ส่วนเรื่องคราบน้ำมันนั้น ขณะนี้ยังมีเรือตรวจตราในทะเล พร้อมใช้โดรนตรวจสอบต่อเนื่อง ยังไม่พบคราบน้ำมัน อย่างไรก็ดียังมีการจัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบหาดแม่รำพึงและชายหาดอื่น ๆ หากพบคราบน้ำมัน ก็จะดำเนินการเข้าเก็บกู้ทันที
จ่าเอกสุทัศน์ แพทยา หัวหน้าสำนักปลัดเทศบาลตำบาลบ้านเพ เปิดเผยว่า ขณะนี้ มีประชาชนลงทะเบียนขอรับมาตรการเยียวยาที่จะให้บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียมฯ รับผิดชอบแล้ว 4,674 คน และยังมีผู้ไม่ได้ยื่นลงทะเบียนอีกจำนวนหนึ่ง เพราะหากเปรียบเทียบกับการยื่นขอเยียวยาที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ ระบุขณะนี้มีรวมกว่า 8,400 คน แต่ขณะนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้าในมาตรการช่วยเหลือ
ด้านนายสมพงษ์ บุษชัยญา รองประธานกลุ่มประมงพื้นบ้านก้นอ่าว หาดแม่รำพึง กล่าวว่า ถือว่าการที่บริษัทสตาร์ ปิโตรเลียมฯ จะดำเนินการลงไปซ่อมท่อที่รั่วในวันนี้เป็นเรื่องที่ดี อยากให้มีการดำเนินการซ่อมให้จบโดยเร็ว เสร็จภายในครั้งเดียวเลย อย่าให้มีการรั่วซ้ำซ้อนอีก ประชาชนจะได้เดินหน้าทำมาหากินต่อ รวมทั้งขอให้ทางบริษัทฯได้มีการเร่งดำเนินการฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและสิ่งแวดล้อมโดยการมีส่วนร่วมของประชาชนและกลุ่มประมง เพื่อให้ทรัพยากรฯกลับมาอุดมสมบูรณ์โดยเร็วด้วย
ก่อนหน้านี้ ศูนย์วิจัย ทช. อ่าวไทยฝั่งตะวันออก ตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อม กรณีได้รับแจ้งเหตุพบฟิล์มน้ำมันและคราบตะกอนเหนียวและมีกลิ่นในพื้นที่หาดแม่รำพึง บริเวณคลองหัวรถ และร้านเจ๊จุกซีฟู๊ด ผลการสำรวจชายหาดแม่รำพึง ตั้งแต่ศาลเจ้าแม่รำพึงถึงก้นอ่าว ระยะทางประมาณ 9.5กม. เบื้องต้นพบว่า สภาพน้ำทะเลเป็นปกติ ไม่พบคราบฟิล์มน้ำมันในน้ำทะเล โดยพบก้อนน้ำมันดินบนชายหาดตั้งแต่บริเวณสะพานท่าเรือตะพงไปจนถึงก้นอ่าว ระยะทางประมาณ 8 กม. และสุ่มเก็บตัวอย่างก้อนน้ำมันดินในบริเวณสะพานท่าเรือตะพง คลองหัวรถ ร้านเจ๊จุกซีฟู๊ด และก้นอ่าว พบความหนาแน่น 2.40, 18.58, 6.59 และ 8.32 กรัม/ตารางเมตร ตามลำดับ โดยพบหนาแน่นสูงสุดบริเวณคลองหัวรถ
นอกจากนั้น ติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมทางทะเลบริเวณชายหาดสุชาดา หาดแสงจันทร์ อ่าวบ้านเพ และหาดสวนสน เบื้องต้นพบว่า สภาพน้ำทะเลเป็นปกติ ไม่พบคราบฟิล์มน้ำมันในน้ำทะเล และก้อนน้ำมันดิน ผลอยู่ในเกณฑ์ปกติ (มาตรฐานคุณภาพน้ำทะเลประเภทที่ 4 เพื่อการนันทนาการ) ทั้งนี้ ได้ทำการเก็บตัวอย่างน้ำทะเลและดินตะกอนบริเวณสถานีเก็บตัวอย่างก้อนน้ำมันดิน เพื่อหาการปนเปื้อนปิโตรเลียมไฮโดรคาร์บอน โดยละเอียดต่อไป
#น้ำมันรั่วระยอง
#หาดแม่รำพึง
CR:แฟ้มภาพ