พลอากาศโท นายแพทย์อนุตตร จิตตินันทน์ ประธานราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย โพสต์ข้อมูลเรื่องสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย
-ผู้ป่วยโควิด-19 รายวันระดับ 18,000 คน มาหลายวันแล้ว ไม่รวมการตรวจด้วยชุดตรวจ ATK ที่ระดับ 10,000 คน ตัวเลขจริงน่าจะมากกว่านี้หลายเท่า เพราะคนที่ติดเชื้อไม่มีอาการ ถ้าไม่ได้ตรวจก็คงไม่ได้รายงาน
-ในช่วง 10 วัน ผู้ป่วยในระบบรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้นค่อนข้างเร็ว เนื่องจาก ผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่าผู้หายป่วยราวๆเฉลี่ยวันละ 5,700 คน ทำให้ผู้ป่วยรักษาตัวอยู่เกิน 160,000 คนไปแล้ว ด้วยอัตราขนาดนี้คงเห็นผู้ป่วยเกิน 2 แสนคนในอีกไม่เกิน 10 วันข้างหน้า เหมือนที่เคยสูงสุดในช่วงสิงหาคมปีที่แล้ว
-ผู้ป่วยรักษาตัวใน รพ.เพิ่มขึ้นเช่นกันเกิน 75,000 คนไปแล้ว ด้วยอัตราเพิ่มเฉลี่ยวันละ 2,500 คน อีก 10 วันน่าจะเห็นผู้ป่วยในโรงพยาบาล 100,000 คน เหมือนที่เคยสูงสุดในช่วงปลายกรกฎาคมปีที่แล้ว
-ผู้ป่วยใน รพ.สนามและ Hospitel เพิ่มขึ้นแต่ไม่เร็วนักอยู่ที่ 5 หมื่นคน
-ส่วน HI-CI เพิ่มขึ้นเร็วเป็น 35,000 คน
แต่ทั้งสองส่วนก็ยังห่างไกลจากที่เคยสูงสุดช่วงปีก่อนที่เคยสูงถึงอย่างละ 8 หมื่นคน
-ตอนนี้สัดส่วนของผู้ป่วยนอน รพ. : รพ.สนาม : HI-CI อยู่ที่ 48 : 30 : 22 ผู้ป่วยรักษาใน รพ.ในสัดส่วนเกือบครึ่งหนึ่ง ซึ่งต่างจากช่วงการระบาดเดือนสิงหาคมปีก่อน ที่ผู้ป่วยรักษาใน รพ.มีสัดส่วนเพียง 28% ของผู้ที่รักษาตัวทั้งหมด
-ผู้ป่วยปอดอักเสบและใช้เครื่องช่วยหายใจ เริ่มเพิ่มขึ้นชัดเจนมากกว่า 50% ในช่วง 10 วันนี้ แต่ก็ยังต่ำกว่าช่วงการระบาดปีก่อนอยู่มาก แต่ก็ทำให้เตียงผู้ป่วยหนักในหลายจังหวัดโดยเฉพาะในกรุงเทพมหานครตึงมือกันมากทีเดียว ช่วยกันประคองให้ผู้ป่วยรายวันไม่เพิ่มมากกว่านี้ด้วยการคงมาตรการส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัดกันไว้ก่อน และคงต้องบริหารจัดการเรื่องของการกักตัวที่บ้านและชุมชน HI-CI มีประสิทธิภาพมากขึ้น
-ตอนนี้มีปัญหาเรื่องความเข้าใจของผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรืออาการน้อยกับสถานพยาบาลในการเข้าสู่ระบบการกักตัวที่บ้านอยู่พอควร ตั้งแต่ผู้ป่วยหลายคนไม่ยอมรับการกักตัวที่บ้าน หรือสภาพของบ้านพักไม่เหมาะสม หลายคนมีอาการตรวจ ATK+ แต่ไม่สามารถประสานเพื่อขอเข้าระบบ HI หรือเข้าได้แล้วกว่าจะได้รับยาและอุปกรณ์การดูแลก็ครบกำหนดไปแล้ว ทำให้บางคนที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคไตวาย ต้องรับการฟอกเลือด แต่อาการน้อยก็ไม่ได้รับการรับไว้ในโรงพยาบาล เพราะเตียงใน รพ.ค่อนข้างแน่น
-เน้นอีกครั้งว่าวัคซีนเข็ม 3 กระตุ้นมีความจำเป็นในช่วงการระบาดของโอไมครอน เพราะถึงแม้จะไม่ได้ช่วยป้องกันการติดเชื้อได้ 100% แต่ก็ป้องกันได้ระดับหนึ่ง และที่สำคัญคือป้องกันการป่วยรุนแรงได้ดี จึงอย่าลังเลเรื่องรับวัคซีน ยิ่งถ้าไม่ได้รับเลยหรือรับแค่ 2 เข็ม โอไมครอนก็รุนแรงได้
#โควิด19พุ่ง
CR:FB:Anutra Chittinandana/ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์