*สรุปข่าว19.35น.*

+++หลังจากพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ประชุมความคืบหน้าคดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น สอบ 6กลุ่มโยงวัดพระธรรมกาย และเตรียมเรียกมาให้ข้อมูลในสัปดาห์หน้า  พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล ผอ.ส่วนตรวจ 2 หัวหน้าชุดตรวจสอบความเชื่อมโยงระหว่างสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น และวัดพระธรรมกาย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเช็คสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำนวน 878 ฉบับ เป็นเงิน 11,367 ล้านบาท โดยสามารถแบ่งออกเป็น 6 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 วัดพระธรรมกาย พระเทพญาณมหามุนี (ไชยบูลย์ สุทธิผล ) พระครูปลัดวิจารณ์ มูลนิธิอุบาสิกาจันทร์ ฯลฯ จำนวน 43 ฉบับ 932 ล้านบาท กลุ่มที่ 2 ญาติธรรมและบุคคลใกล้ชิดนายศุภชัย ศรีศุภอักษร จำนวน 27 ฉบับ348 ล้านบาท กลุ่มที่ 3 บริษัท เอส ดับบลิว โฮลดิ้ง และนายสถาพร วัฒนาศิริกุล จำนวน 12 ฉบับ 272 ล้านบาท   กลุ่มที่ 4 สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนมงคลเศรษฐี จำนวน 3 ฉบับ 46 ล้านบาท กลุ่มที่ 5 นายวัฒน์ชานนท์ นวอิสรารักษ์ นายจิรเดช วรเพียรกุล และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนรัฐประชา จำนวน 135 ฉบับ 2,566 ล้านบาท และกลุ่มที่ 6 นิติบุคคล ,เงินโอนภายในประเทศและต่างประเทศ,ถอนเงินสด,แคชเชียร์เช็ค,โอนผ่านเน็ต,ถอนECS,โอนทาง internet ฯลฯ จำนวน 658 ฉบับ 7,203 ล้านบาท

+++สำหรับเงินที่ได้มีการโอนย้ายออกจากบัญชีของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นไปอยู่ในบัญชีของวัดพระธรรมกาย ดีเอสไอ พยายามที่จะแยกเส้นทางการเงินเพื่อให้ทราบว่าเป็นที่ได้รับโอนมาจากสหกรณ์ฯ หรือมาจากเงินบริจาค แต่ติดปัญหาว่าวัดพระธรรมกายมีเงินจำนวนมาก จึงทำให้ยากแก่การตรวจสอบ ทั้งนี้ยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบต่อไป ดีเอสไอจะประสานการทำงานกับ ปปง. อย่างใกล้ชิดเพื่อเป็นการสนับสนุนข้อมูล  ซึ่งจะมีการยึดอายัดทรัพย์สินเพิ่มเติมในเร็วๆนี้     

+++ส่วนที่กองปราบปราม นายเสถียร วิพรมหา (วิ-พร-มะ-หา) รักษาการนายกสมาคมนักวิชาการเพื่อพระพุทธศาสนา (สนพ.) พร้อมด้วยพระมหาโชว์ ทัสสนีโย ที่ปรึกษา สนพ. เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน กองปราบปราม ให้ดำเนินคดีกับพระพุทธอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย ผิดตามพระราชบัญญัติ คณะสงฆ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2535 มาตรา 44 ทวิ และมาตรา 44 ตรี เนื่องจากมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม

+++ขณะที่ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) แถลงว่า หลังจากที่คณะกรรมการฯ ชุดนี้ซึ่งถือว่าได้ข้อมูลครบถ้วนรอบด้านแล้ว จึงจะทำหนังสือสรุปรายผลการศึกษา ถึงประธาน สปช. ลงวันที่ 6 มีนาคม ถือว่า ภารกิจได้บรรลุเป้าหมายทุกประการ ทำให้พุทธศาสนิกชนเกิดความตื่นตัว มีส่วนร่วมในการออกมาปกป้องพิทักษ์พุทธศาสนาแล้ว ถือว่าได้ผลเกินความคาดหมาย

+++คณะกรรมาธิการ(กมธ.)ยกร่างรัฐธรรมนูญ พิจารณาร่างบทบัญญัติรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา โดยมีนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานกมธ.ยกร่างฯทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม โดยมีวาระพิจารณาร่างบทบัญญัติบทเฉพาะกาลที่เหลืออยู่รวมทั้งมาตราที่ยังไม่ พิจารณาไม่ได้ข้อยุติ และได้มีการขออนุญาตนายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ว่าจะขอนำกมธ.ยกร่างฯไปนำเสนอภาพรวมของจัดทำรัฐธรรมนูญทั้งหมดในการประชุม สปช.ในวันอังคารที่ 10 มีนาคม  

+++นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษก กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ เปิดเผยว่า รัฐธรรมนูญมีทั้งหมด 315 มาตรา ที่ประชุมได้ข้อสรุปเว้นวรรคทางการเมือง 2 ปี เฉพาะคณะกมธ.ยกร่างฯ เท่านั้น ส่วนแม่น้ำอีก 4 สาย ไม่มีผลเรื่องการเว้นวรรคทางการเมือง นายคำนูณ ชี้แจงว่า ที่ประชุมได้มีการหารือแต่เสียงส่วนใหญ่เห็นว่าควรบังคับแต่กมธ.ยกร่างฯ เพราะรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) ปี 2557 ได้กำหนดไว้ล่วงหน้า ทำให้ผู้ที่จะเข้ามาเป็นกมธ.ยกร่างฯได้วางแผนตั้งแต่แรก ก่อนที่จะอาสาเข้ามาทำงาน ในขณะที่ผู้ดำรงตำแหน่งอื่นไม่ว่าเป็นสปช. สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ก็ไม่ได้รับรู้มาก่อนว่าเมื่อมาดำรงตำแหน่งจะต้องถูกห้ามดำรงตำแหน่งต่อไป หลังจากที่รัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้ ทั้งนี้ที่ประชุมไม่ได้มีการหารือถึงกรณีการดำรงตำแหน่งทางการเมืองของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) และครม.

+++นายวันชัย สอนศิริ โฆษกคณะกรรมาธิการประสานงานสภาปฏิรูปแห่งชาติ (วิป สปช. ) ยืนยันว่า จะดำเนินการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญที่ส่งมาให้ สปช. พิจารณาออกมาให้ดีที่สุด มีความเหมาะสมกับสภาพสังคมไทย และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติมากที่สุด แต่หากมีใครวิพากษ์วิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ ก็เป็นสิทธิ์ที่ทำได้ วันที่ 17-26 เมษายนนี้ ที่ประชุมสปช.จะพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญที่คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญที่เสนอมา และวันที่ 11 มีนาคมนี้ จะเป็นการประชุมแม่น้ำ 5 สาย สปช. จะนำวาระการปฏิรูปประเทศทั้ง 36 วาระ นำเสนอต่อที่ประชุมด้วย

+++กลุ่มผู้ค้าตลาดคลองถมกว่า 200 คนนัดหารือถึงแนวทางจัดหาพื้นที่ขายใหม่ หลังจากกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้ตรึงกำลังเจ้าหน้าที่จัดระเบียบพื้นที่ตลาดคลองถม ห้ามผู้ค้าตั้งแผงค้าบนทางเท้าทั้งหมด ตั้งแต่วันที่ 2 มี.ค.เป็นต้นไป โดยตัวแทนผู้ค้าตลาดคลองถม กล่าวว่า จากการที่กทม.ได้จัดระเบียบคลองถม มีผู้ค้าได้รับผลกระทบกว่า 3,000 ราย ซึ่งเมื่อวันที่ 23 ก.พ. กลุ่มผู้ค้าได้ยื่นฟ้องกรุงเทพมหานคร (กทม.) ต่อศาลปกครอง เพื่อขอความอนุเคราะห์ในการใช้พื้นที่คลองถมทำการค้าต่อไป แต่ล่าสุดศาลปกครองได้ยกคำร้องของกลุ่มผู้ค้า อย่างไรก็ตามกลุ่มผู้ค้าก็จะดำเนินการยื่นอุทธรณ์ต่อสู้คดีขอความเป็นธรรมต่อไป และในระหว่างนี้ได้เป็นตัวแทนผู้ค้า สำรวจพื้นที่ขายแห่งใหม่รองรับไว้ ซึ่งได้ประสานเจ้าของตลาดนัดสายใต้ใหม่ ขอใช้พื้นที่รองรับกลุ่มผู้ค้าที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งตลาดสายใต้ใหม่สามารถรองรับผู้ค้าได้กว่า 2,000 แผงค้า โดยคิดค่าเช่าแผงค้าวันละ 100 บาท และได้ตกลงทำสัญญาในการคิดค่าเช่าในอัตราคงที่เป็นเวลา 2 ปี โดยหากกลุ่มผู้ค้าบางส่วนจะนัดหมายไปขายยังที่ดังกล่าวทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค. ทั้งนี้คาดว่าจะมีผู้ค้าย้ายไปขายยังตลาดสายใต้ใหม่จำนวนกว่า 1,000 ราย นอกจากนี้ยังมีผู้ค้าบางส่วนไปหาพื้นที่ขายอื่นๆเตรียมไว้

+++มีรายงานว่า ช่วงเช้าวันที่ 7 มี.ค. จะมีผู้ค้าตลาดคลองถมบางส่วนที่ยืนยันจะนำอุปกรณ์และสินค้าเข้าพื้นที่ตลาดคลองถมเพื่อหวังทำการการค้าเช่นเดิม แม้จะมีเจ้าหน้าที่เทศกิจ ตำรวจ และทหาร ตั้งจุดสกัดอยู่โดยรอบก็ตาม ซึ่งจะลงพื้นที่ไปดูแลไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน

+++หุ้นไทยปิดตลาดวันนี้  บวก14.96จุด ดัชนีอยู่ที่1,568.29จุด มูลค่าซื้อขาย45,672.76ล้านบาท

+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวของญี่ปุ่น ปิดบวกในวันนี้ แต่ตลาดขาดปัจจัยหนุน ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันนี้ ดัชนีนิกเกอิปรับตัวขึ้น 48.24 จุด แตะที่ 18,751.84 จุด



+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดตลาดร่วงลง โดยนักลงทุนเกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีน หลังจีนปรับลดเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจปี 2558 ดัชนีฮั่งเส็งลดลง 272.34 จุด ปิดวันนี้ที่ 24,193.04 จุด

+++ตำรวจเมียนมาร์และกองกำลังอาสาสมัครในเมืองย่างกุ้งจับกุมกลุ่มนักศึกษา 5 คน ฐานพยายามฝ่าวงล้อมของเจ้าหน้าที่ ซึ่งตั้งด่านหลายชั้นเอาไว้บริเวณเมืองเลตปาดัน เพื่อขวางกั้นกลุ่มนักศึกษาเหล่านี้ซึ่งมีทั้งหมดกว่า 200 คน ไม่ให้เดินทางเข้าไปในเมืองย่างกุ้ง เมืองใหญ่ที่สุดของประเทศ ตั้งอยู่ห่างออกไปอีกราว 140 กิโลเมตร จับกุมนักเคลื่อนไหวทางการเมืองไป 8 คน ฐานออกมาแสดงตัวสนับสนุนกลุ่มนักศึกษาที่ประท้วงเรื่องการห้ามแสดงความคิดเห็นระบบการศึกษา