การสอบสวนทุจริตเงินทอนวัด ล่าสุด พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ บก.ปปป. บูรณาการกำลังร่วมกับ เจ้าหน้าที่ บก.ปอท, เจ้าหน้าที่บก.รฟ., เจ้าหน้าที่ บก. ทล. เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. รวมกว่า 60 นายเปิดปฏิบัติการ “ล้างบาปปราบอลัชชี ทุจริตเงินทอนวัด” กระจายกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 5 จุด ในพื้นที่ จ.นครนายก จ.นนทบุรี และกรุงเทพมหานคร เพื่อตามจับผู้กระทำผิดทุจริตเงินอุดหนุนวัด ของสํานักงานพระพุทธศาสนา รวมถึงตรวจยึดทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำผิด
โดยเป้าหมายสำคัญของการตรวจค้นอยู่ที่ กุฏิเจ้าอาวาสวัดเขาทุเรียน ต.เขาพระ อ.เมือง จ.นครนายก ซึ่งเป็นที่จำวัดของพระสิทธิวรนายก หรือ เจ้าคุณแจ๊ค เจ้าอาวาสวัด หรืออีกตำแหน่งคือรองเจ้าคณะจังหวัดนครนายก ทั้งนี้เมื่อพบตัว พระสิทธิวรนายก เจ้าหน้าที่จึงแสดงหมายค้นศาลจังหวัดนครนายก เพื่อขอเข้าทำการตรวจค้นหาพยานหลักฐานต่างๆ ภายในกุฏิ ก่อนจะนิมนต์พระสิทธิวรนายกไปยัง สภ.เมืองนครนายก เพื่อทำการสอบปากคำพร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหา อย่างเป็นทางการ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้นิมนต์เจ้าอาวาสวัดอื่นๆ ในพื้นที่ จ.นครนายก ที่เกี่ยวข้องอีก 11 วัด มาทำการสอบปากคำยัง สภ.เมืองนครนายก อีกด้วย
ปฏิบัติการดังกล่าวสืบเนื่องจากก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวน บก.ปปป. ได้รับการร้องเรียนให้ดำเนินการตรวจสอบงบอุดหนุนวัดของสำนักงานพระพุทธศาสนา ช่วงระหว่างปี 2550-2559 ของ จ.นครนายก หลังพบความผิดปกติหลายอย่างจนเชื่อได้ว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นจึงลงพื้นที่สืบหาข้อเท็จจริง
ต่อมาพบว่า นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อดีต ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา แห่งชาติ ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีทุจริตเงินทอนวัดเคสเก่า ที่อยู่ระหว่างหลบหนี พร้อมพวกเจ้าหน้าที่สํานักพุทธฯ ได้ร่วมกับ พระสิทธิวรนายก และเจ้าอาวาสวัดต่างๆ ในพื้นที่ ทุจริตเงินอุดหนุนจากสำนักพุทธที่อนุมัติให้วัดต่างๆในพื้นที่ จ.นครนายก 12 วัด ในวงเงินงบประมาณ 123 ล้านบาท
โดยหลังจากเจ้าอาวาสแต่ละวัดได้รับเงินอุดหนุนแล้วก็จะทำการถอนเงินสดออกมาทั้งหมดแล้วนําไปให้พระสิทธิวรนายก จากนั้นก็จะแบ่งเงินเพียงบางส่วนทอนให้วัดต่างๆ คืนไป โดยอ้างว่าจะต้องเอาเงินส่วนที่เหลือไปมอบให้สำนักพุทธเพื่อนำไปบริจาคให้กับวัดอื่นๆ ที่ยังขาดแคลนงบประมาณ รวมเงินที่เจ้าอาวาสวัดเขาทุเรียนรวบรวมมาได้ กว่า 110 ล้านบาท ก่อนจะนำเงินไปแบ่งกับ นายนพรัตน์
จากการสืบสวนยังพบอีกว่า ทั้งอดีต ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา และเจ้าอาวาสวัดเขาทุเรียน หลังได้เงินมาแล้วได้นำเงินบางส่วนไปซื้อที่ดินทรัพย์สินต่างๆ จำนวนมาก โดยมีหลักฐานยืนยันชัดเจนแล้วว่า ทั้งคู่ได้กว้านซื้อที่ดินจากชาวบ้านในพื้นที่ จ.นครนายก ที่มีความสนิทกัน จำนวน 3 แปลง เนื้อที่รวมกว่า 10 ไร่ มูลค่ารวมประมาณ 18.6 ล้านบาท โดยให้บุคคลในครอบครัวเป็นผู้ถือกรรมสิทธิแทนในลักษณะอำพรางปกปิด ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่ส่อไปในทางทุจริต และถือเป็นความผิดอาญาฐานร่วมกันฟอกเงิน
#ทุจริตเงินทอนวัด